อาหารทางเลือก – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 18 Nov 2021 10:17:15 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ทิศทาง ‘เทมาเส็ก’ ทุ่มเงินดันธุรกิจ ‘อาหารยั่งยืน-โปรตีนทางเลือก’ ในเอเชีย https://positioningmag.com/1362835 Thu, 18 Nov 2021 09:07:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1362835 เทมาเส็ก (Temasek) กองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ เตรียมทุ่มเงินในธุรกิจอาหารยั่งยืนและโปรตีนทางเลือก’ ของเอเชีย หลังความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็น ‘มิตรต่อสิ่งแวดล้อม’ เพิ่มขึ้นทั่วโลก

ในอีก 3 ปีข้างหน้านี้ เทมาเส็ก (Temasek) เเละสำนักงานเพื่อวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการวิจัยของสิงคโปร์ (A*STAR) จะให้เงินลงทุนมากกว่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 977 ล้านบาท) กับ ‘Asia Sustainable Foods Platform’ บริษัทใหม่ที่เป็นแพลตฟอร์มอาหารยั่งยืนแห่งภูมิภาคเอเชีย

โดย Asia Sustainable Foods Platform มีเป้าหมายที่จะมอบโซลูชันและการสนับสนุนในฐานะผู้เปิดโอกาส ผู้ประกอบการ และนักลงทุน แก่บริษัทเทคโนโลยีอาหารต่างๆ เมื่อบริษัทเหล่านี้ ดำเนินการผ่านวงจรตั้งแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์จนถึงการขยายขนาดเชิงพาณิชย์

  • ในฐานะผู้เปิดโอกาส แพลตฟอร์มนี้ จะให้คำปรึกษาด้านการวิจัยและพัฒนาและอำนวยความสะดวกให้การผลิตนำร่อง เพื่อสนันสนุนให้ธุรกิจเทคโนโลยีอาหารเร่งการทำผลิตภัณฑ์ตนเองออกจำหน่ายเชิงพาณิชย์
  • ในฐานะผู้ประกอบการ แพลตฟอร์มนี้จะให้ความสามารถด้านการผลิต ควบคู่ไปกับข้อมูลตลาดเชิงลึกในด้านโอกาสทางการค้า เพื่อสนับสนุนการขยายธุรกิจทั่วเอเชีย
  • ในฐานะนักลงทุน แพลตฟอร์มนี้จะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ มีเครือข่ายการเชื่อมโยงเชิงกลยุทธ์และจัดสรรเงินทุนแก่บริษัทสตาร์ทอัพเทคโนโลยีอาหารที่มีแววสดใส

Anuj Maheshwari กรรมการผู้จัดการฝ่ายการลงทุนด้าน agri-food ของเทมาเส็ก กล่าวในรายการ Squawk Box Asia ของ CNBC ว่า ไอเดียริเริ่มนี้ จะกระตุ้นให้เกิดการลงทุนเพิ่มขึ้นในเทคโนโลยีด้านการเกษตรสมัยใหม่ หรือ AgriTech เเละเทมาเส็กจะเป็นหนึ่งในนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดของโลกที่ทุ่มลงทุนในอุตสาหกรรมนี้

จากข้อมูลของ Good Food Institute ในปี 2020 ระบุว่า การลงทุนในธุรกิจ ‘โปรตีนทางเลือก’ ทั่วโลก มีมูลค่า 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่าปีที่ก่อนหน้าถึง ‘สามเท่า’ เเละเป็นเพียงเม็ดเงินเล็กน้อยในการลงทุนระยะเริ่มต้นเท่านั้น

ขณะที่ผลการวิจัยร่วมกันของ Temasek, PwC และ Rabobank พบว่า โดยภาพรวม ภูมิภาคเอเชีย ยังต้องใช้เงินลงทุนมากกว่า 1.55 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ‘ในระยะ 10 ปีข้างหน้า’ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่นิยมเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและยั่งยืนมากขึ้น

นับตั้งเเต่ปี 2013 เทมาเส็กลงทุนมากกว่า 8 พันล้านดอลลาร์ในธุรกิจ AgriTech ทั้งในบริษัท Impossible Foods ผู้ผลิตเนื้อสัตว์ทางเลือกจากพืช และ Eat Just ผู้ผลิตโปรตีนจากเซลล์ ซึ่งปัจจุบันทั้งสองบริษัทเป็นสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์

สำหรับเเพลตฟอร์มใหม่อย่าง Asia Sustainable Foods Platform จะสนับสนุนการแก้ปัญหาที่เกิดกับอุตสาหกรรมอาหารอย่างยั่งยืน ตั้งแต่โปรตีนทางเลือกไปจนถึงลดปริมาณขยะจากอาหารที่กินเหลือและเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ รวมทั้งก๊าซมีเทน ตัวการหลักที่ทำให้สภาพอากาศโลกเปลี่ยนแปลง

ผู้บริหารเทมาเส็ก หวังว่า หน่วยงานกำกับดูแลด้านอาหารจะเคลื่อนไหวควบคู่กันไป เพื่อให้สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมและการพัฒนาอาหารที่ยั่งยืนต่อไปได้ในอนาคต

ทั้งนี้ เทมาเส็ก เป็นบริษัทเพื่อการลงทุนที่มีมูลค่าพอร์ตสุทธิ 3.81 แสนล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (2.83 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ณ วันที่ 31 มี.ค. ปี 2020 มีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ และมีสำนักงานย่อย 13 แห่งใน 9 ประเทศทั่วโลก

 

ที่มา : CNBC , straitstimes , prnewswire

 

 

]]>
1362835
เนสท์เล่ ลุย Plant-based ต่อเนื่อง เปิดตัว ‘ไข่’ และ ‘กุ้ง’ จากพืช เริ่มวางขายในตลาดยุโรปก่อน https://positioningmag.com/1355478 Thu, 07 Oct 2021 11:00:31 +0000 https://positioningmag.com/?p=1355478 ยักษ์ใหญ่วงการอาหาร พัฒนาสูตรเเข่งตลาด Plant-based กันต่อเนื่อง ล่าสุดเนสท์เล่ ออกเมนูกุ้งเเละไข่ที่ทำจากพืช ประเดิมวางขายในโซนยุโรปก่อน

อาหารทดแทนเนื้อสัตว์ที่ทำมาจากพืช หรือ ‘Plant-based’ ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เเละมีส่วนเเบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ได้จำกัดเเค่ผู้บริโภคสายวีเเกนหรือสายรักษ์โลกเหมือนสมัยก่อน เเต่ขยายถึงกลุ่มลูกค้าทั่วไปด้วย

เนสท์เล่ (Nestlé) จะเริ่มวางขายผลิตภัณฑ์ไข่จากพืชภายใต้แบรนด์ Garden Gourmet vEGGie โดยมีส่วนประกอบสำคัญเป็นโปรตีนถั่วเหลือง และกรดไขมันโอเมก้า 3 ใช้ทำอาหารเมนูต่างๆ หรือใช้ผสมในเค้กเเละคุกกี้ได้เหมือนกับไข่ปกติ

ส่วนกุ้งจากพืชจะวางขายภายใต้แบรนด์ Vrimp หลังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทดแทนเนื้อทูน่าจากพืชไปเมื่อปีที่แล้ว เเละมีเสียงตอบรับที่ดี

โดยจะเริ่มจะวางจำหน่ายทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ในบางประเทศในยุโรป รวมถึงสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนจะขยายไปยังตลาดอื่นๆ ต่อไป

Mark Schneider ซีอีโอของเนสท์เล่ บอกว่า ผลิตภัณฑ์วีแกน อย่างเบอร์เกอร์และไส้กรอกจากพืช มียอดขายเติบโตเเบบ ‘double-digit’

“Plant-based ไม่ได้จำกัดเเค่เฉพาะกลุ่มคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอีกต่อไป เเต่กำลังจะเป็นเทรนด์กระเเสหลักที่เข้าถึงในวงกว้าง ทุกเพศทุกวัย

เขาเชื่อว่าตลาดนี้ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เเม้ในปีที่แล้ว ยอดขายของผลิตภัณฑ์จากพืชเเบรนด์ต่างๆ ของเนสท์เล่ จะมีมูลค่าเพียง 216 ล้านดอลลาร์ (ราว 7.3 พันล้านบาท) คิดเป็นสัดส่วนเพียงเล็กน้อยจากยอดขายทั้งหมดในเครือกว่า 9 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 3 ล้านล้านบาท)

วัตถุดิบอาหาร 5 แบบแรกที่วางตลาดของ Harvest Gourmet นำไปทำอาหารได้หลายอย่าง

ด้าน Stefan Palzer ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของเนสท์เล่ ระบุว่า บริษัทได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ Plant-based เมนูใหม่ๆ ได้ภายในเวลาไม่ถึงปี อย่างเช่น การสร้างโปรตีนถั่วที่ไม่ได้มีรสชาติเหมือนพืชตระกูลถั่วเลย

เราจะพยายามพัฒนาให้อาหาร Plant-based เหล่านี้ มีรสชาติใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์จริงๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะจะช่วยให้ผู้คนเปลี่ยนมาทานวีเเกนกันได้ง่ายยิ่งขึ้น

สะท้อนให้เห็นทิศทางของเเบรนด์อุปโภคบริโภครายใหญ่ของโลกที่จะบุกตลาด Plant-based อย่างจริงจัง หลังเปิดตัวเบอร์เกอร์จากพืชเป็นครั้งแรกในปี 2019 ซึ่งช้ากว่าผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมอย่าง Beyond Meat และ Impossible Foods ของสหรัฐฯ ไปประมาณ 3 ปี

อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงลูกค้าทั่วโลกผ่านเเบรนด์ในเครือที่มีอยู่จำนวนมาก เป็นข้อได้เปรียบของเนสท์เล่ที่มีอยู่เหนือคู่แข่งรายสำคัญที่ทำตลาดนี้มาก่อน

เรามีแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มอยู่มากมาย เเต่บริษัทเหล่านั้นไม่มี” Palzer กล่าว

ที่ผ่านมา เนสท์เล่ ได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์วีแกนร่วมกับสินค้าหมวดหมู่อื่นๆ อย่าง KitKat V ซึ่งเราคงจะได้เห็นการทำตลาดเเบบนี้ออกมาเรื่อยๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับผู้บริโภค

ส่วนในไทยนั้น เนสท์เล่ จับตลาด Plant-based ผ่านแบรนด์ Harvest Gourmet จำหน่ายวัตถุดิบอาหารแบบ B2B เข้าร้านโดยตรง มีพันธมิตรเชนร้านอาหารรายใหญ่หลักร้อยสาขา มี 5 ชนิดให้เลือก ได้แก่ เนื้อเบอร์เกอร์ เนื้อบดละเอียด ไก่ย่างรมควัน ไก่ชุบเกล็ดขนมปัง และ มีทบอล

โดยประเมินมูลค่าตลาดในไทยราว 900 ล้านบาท โอกาสโตปีละ 20% พบคนไทย 1 ใน 4 เป็นกลุ่ม Flexitarian ลดทานเนื้อสัตว์อย่างน้อย 1 วันต่อสัปดาห์

อ่านต่อ : Plant-based ฮิตจัด! “เนสท์เล่” เปิดแบรนด์ Harvest Gourmet ส่งวัตถุดิบเข้าร้านอาหาร

 

]]>
1355478
โอกาสอาหารทางเลือก อียูอนุมัติ ‘หนอนนก’ วางขายได้ในซูเปอร์มาร์เก็ต-ร้านอาหารทั่วยุโรป https://positioningmag.com/1330455 Wed, 05 May 2021 04:40:12 +0000 https://positioningmag.com/?p=1330455  ‘หนอนนกอบเเห้งกำลังจะได้วางขายในซูเปอร์มาร์เก็ตเเละร้านอาหารทั่วยุโรป ในเร็วๆ นี้  มองตลาดโตได้ดี ตามเทรนด์อาหารทางเลือกเพื่อสุขภาพเเบบใหม่

โดยทั้ง 27 ประเทศที่เป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (อียู) ไฟเขียวให้หนอนนกหรือ ‘mealworm’ สามารถวางจำหน่ายได้ทั่วไปในฐานะ ‘novel food’ อาหารทางเลือกที่ใช้เทคโนโลยีแบบใหม่ ที่มีความปลอดภัยในการบริโภค

ความเคลื่อนไหวดังกล่าว มีขึ้นหลังหน่วยงานความปลอดภัยด้านอาหารของสหภาพยุโรป ได้เผยเเพร่งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในปีนี้ว่า หนอนนกสามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย สามารถทานได้ทั้งตัวหรือในรูปแบบผงสกัด หรือนำมาปรุงเป็นอาหารว่าง เพราะอุดมไปด้วยคุณค่าทางโปรตีนสูง อย่างไรก็ตาม การเเพ้หนอนนกอาจเกิดขึ้นได้ในผู้ที่เคยมีอาการแพ้กุ้ง สัตว์น้ำเปลือกแข็งหรือไรฝุ่น เป็นต้น

แมลงถือเป็นอาหารอย่างหนึ่ง ที่ปัจจุบันเเม้จะยังมีส่วนเเบ่งในตลาดน้อยมาก เเต่ก็มีโอกาสเติบโตได้ เป็น
เทรนด์อาหารทางเลือกเพื่อสุขภาพเเบบใหม่

คาดว่าตลาดแมลงที่กินได้จะมีมูลค่าสูงถึง 4.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.4 เเสนล้านบาท) ภายในปี 2027 เเละยังมีเมนูของแมลงอื่นๆ อีก 11 ชนิด ที่กำลังรอการประเมินความปลอดภัยจากสหภาพยุโรป

เจ้าหน้าที่ของอียูให้ความเห็นว่า การเพาะเลี้ยงเเมลงเพื่อนำมาเป็นอาหารนั้นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มากกว่าการเลี้ยงวัวและแหล่งโปรตีนขนาดใหญ่อื่นๆ 

ด้านองค์การอาหารและเกษตรของสหประชาชาติ ระบุว่าเเมลงเป็นแหล่งอาหารที่ดีต่อสุขภาพ มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยไขมัน โปรตีน วิตามิน เส้นใยเเละเเร่ธาตุสูง

ทั้งนี้ หลังหนอนนกได้รับการอนุมัติจากประเทศในสหภาพยุโรปเเล้ว จะสามารถวางจำหน่ายเป็นผลิตภัณฑ์อาหารตามร้านสะดวกซื้อต่างๆ ได้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้

 

 

ที่มา : AP , Aljazeera

]]>
1330455
‘ซีพีเเรม’ ลงสนาม Plant-Based ส่ง ‘ข้าวกล่อง’ พร้อมทานเข้าสะดวกซื้อ ราคาเริ่ม 39 บาท https://positioningmag.com/1319986 Thu, 18 Feb 2021 11:10:56 +0000 https://positioningmag.com/?p=1319986 ยุคนี้ใครๆ ก็ต้องจับเทรนด์อาหารเเห่งอนาคต ล่าสุดเจ้าใหญ่อย่างซีพีเเรมเปิดตัวเเบรนด์ใหม่ ‘VG for Love’ อาหารเนื้อสัตว์ที่ทำจากพืช ’Plant Based Diet’ เเบบพร้อมทาน ประเดิม 10 เมนูเเรก ตั้งเป้าปั๊มยอดขายเเตะ 1,000 ล้านภายในปี 2566 เชื่อตลาดไทยเปิดใจรับ หวัง 3-5 ปี มีสัดส่วนทำรายได้ให้บริษัทถึง 20% ย้ำเเผนอาหารผสม ‘กัญชง-กัญชา’ ตอนนี้ยังอยู่ในการศึกษาความเป็นไปได้

สินค้าแบรนด์เนื้อมังสวิรัติเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จากกระเเส ‘รักษ์โลกเเละรักสุขภาพ’ ของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่เปลี่ยนพฤติกรรมหันมาบริโภคอาหารที่ทำมาจากพืช มากกว่าการบริโภคเนื้อสัตว์จริงๆ เพราะเห็นว่ากระบวนการผลิตเนื้อสัตว์ มีการปล่อยคาร์บอนที่เป็นภัยต่อการเปลี่ยนเเปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)

ยักษ์ใหญ่ลงเล่นตลาด ‘Plant-Based’ ไทย 

วิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด ในเครือบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สังคมไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มการบริโภคอาหารที่ตอบโจทย์สุขภาพ พร้อมกับร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เป็น ‘โอกาสตลาด’ ของบริษัทที่จะพัฒนาสินค้าใหม่ออกมาให้ตรงความต้องการของผู้บริโภค ซึ่ง Plant Based ก็เป็นอาหารทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา เเละบริษัทก็มีความพร้อมทั้งด้านโรงงาน วัตถุดิบ จึงสามารถขยายการลงทุนได้ง่าย

วิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด

สำหรับเเบรนด์ ‘VG for Love’ มีที่มาของชื่อจาก ทั้ง 4 ความรัก คือ รักสุขภาพ รักชีวิตสัตว์  รักสิ่งแวดล้อม และรักโลก วางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยเเล้วในแม็คโคร , ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven (ตอนนี้ขายทางออนไลน์ก่อน ช่วงปลายเดือนหน้าถึงจะวางในสาขา) , ร้านค้าชั้นนำในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งจะขยายจุดจำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศเร็ว นี้ (รวมถึงโลตัสด้วย)

สินค้าของ ‘VG for Love’ เเบ่งเป็น 5 ประเภท ได้แก่ หมายเลข 1 อาหารเจ , หมายเลข 2 อาหารวีแกน , หมายเลข 3 อาหารมังสวิรัติกับนม, หมายเลข 4 อาหารมังสวิรัติกับไข่ และ หมายเลข 5 อาหารมังสวิรัติกับนม และ ไข่ 

กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย หลักๆ คือคนทุกเพศทุกวัยที่บริโภคพืชเป็นหลัก เเละกลุ่มที่บริโภคพืชเป็นบางมื้อ เช่นเลือกทาน Plant Based ราว 2-3 มื้อต่อสัปดาห์

เมนู ’Plant Based Diet’ ของซีพีเเรมที่วางขายในเเม็คโคร

สำหรับเมนูเปิดตัว จะปล่อย ’10 เมนู’ ออกมาทดลองตลาดเเละจะมีเมนูอื่นๆ เพิ่มเข้ามาตลอดปี โดยผู้บริหารซีพีเเรม บอกถึงเหตุผลการเปิดตัวด้วย 10 เมนูว่า “คิดเหมือนเราเปิดร้านข้าวเเกง ที่ต้องมีอาหารหลากหลาย ให้ลูกค้ามีทางเลือก จากนั้นเราจะดูว่าเมนูเเบบไหนขายดี ก็จะนำมาต่อยอดต่อไป”  

ส่วนเหตุผลในการเลือกเปิดตัวท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจนั้น เพราะเห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมเเล้ว อีกทั้งยังเป็นการช่วยเเบ่งเบาภาระผู้บริโภค เเละการเลือกเปิดตัวในเดือน ‘กุมภาพันธ์’ ก็เพราะเป็นเดือนเเห่งความรักที่สอดคล้องกับชื่อเเบรนด์ ‘VG for Love’ ด้วย 

สำหรับ 10 เมนูเเรก จะเน้นเป็นอาหารที่คนไทยชื่นชอบเเละทานได้ในชีวิตประจำวัน เหมือนเมนูอาหารตามสั่งทั่วไป  ได้เเก่

  • ข้าวกะเพราหมูพีบี
  • ข้าวกะเพราหมูพีบีไข่ดาว
  • ข้าวคะน้าหมูกรอบพีบี
  • ข้าวผัดกะเพราขี้เมาเห็ดออรินจิพีบี
  • ข้าวผัดเเกงเขียวหวานไก่พีบี
  • ข้าวผัดเห็ดออรินจิพีบี
  • ข้าวลาบหมูพีบี
  • บะหมี่เเห้งปลาเส้นทอดพีบี
  • สปาเก็ตตี้ขี้เมาเห็นออรินจิพีบี
  • สปาเก็ตตี้พอร์คบอลพีบี

การที่ ‘ซีพีแรม’ วางขายข้าวกล่อง ’Plant Based Diet’ เเบบพร้อมทานในร้านสะดวกซื้อเจ้าเเรกในไทย ด้วยราคา 39-45 บาท ถือว่าเป็น ‘ข้อได้เปรียบทางราคา’ ที่จะช่วยให้ขยายฐานลูกค้าในตลาดเเมสได้ง่ายขึ้น เพราะปกติเเล้วอาหาร Plant Based มักจะมีราคาสูงเเละหาทานได้ยากกว่า

เมื่อถามว่า บริษัทมีเเผนจะออกผลิตภัณฑ์ที่ผสม ‘กัญชง-กัญชา’ ตามที่ผู้ผลิตอาหารเจ้าใหญ่ในไทยหลายรายประกาศลงเล่นตลาดนี้หรือไม่ ได้คำตอบว่า ตอนนี้ยังอยู่ในการศึกษาความเป็นไปได้ ศึกษาข้อกฎหมายต่างๆ อยู่ 

ผู้บริหารซีพีเเรมประกาศว่า เป้าหมายยอดขายในปี 2564 ตั้งเป้าไว้ที่ 120 ล้านบาท จากนั้นปี 2565 จะเติบโตหลายเท่าเป็น 500 ล้านบาท เเละในปี 2566 เชื่อว่ายอดขายเมนู ’Plant Based Diet’ จะเเตะถึง 1,000 ล้านบาทได้ 

เเม้ดูเหมือนว่าตัวเลขเป้ายอดขายจะดูสูงมากเมื่อเทียบกับการเปิดตลาดใหม่ เเต่ ‘ซีพีเเรม’ ยืนยันว่า คนไทยจะเปิดใจรับอย่างเเน่นอน เเละหวังว่าภายใน 3-5 ปีนี้ ’Plant Based Diet’ จะมีสัดส่วนที่ทำรายได้ถึง 20% ของพอร์ตสินค้าทั้งหมด (ยกตัวอย่างเช่น หากบริษัทมีรายได้รวมราว 2 หมื่นล้านบาท ก็จะเป็นสินค้า Plant Based ถึง 4,000 ล้านบาท เป็นต้น)

สำหรับตลาด Plant-Based Food ในประเทศไทย เริ่มมีเชนร้านอาหารนำเนื้อทำจากพืชมาปรุงเป็นเมนูหลัก เช่น Sizzler ในเครือไมเนอร์ หรือร้านฌานาในเครือฟู้ดแพชชั่น รวมถึงมีนำเข้าจากต่างประเทศมาวางจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ตบางแห่งด้วย

จากข้อมูลของ NRF ผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ของไทย ระบุว่า ตลาดเนื้อที่ทำจากพืชปัจจุบันมีมูลค่ารวมทั่วโลก 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ มีแนวโน้มเติบโตขึ้นไปเป็น 80,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายใน 5 ปี เนื่องจากผู้บริโภคเห็นข้อดีของวัตถุดิบอาหารรูปแบบนี้มากขึ้น

การลงสนามในตลาด Plant-Base Food ของบริษัทยักษ์ใหญ่ใน “เครือซีพี” ครั้งนี้ จึงน่าจับตาไม่น้อย 

ในปี 2563 ซีพีเเรมทำรายได้ 19,373 ล้านบาท เเบ่งเป็นการจำหน่ายใน 7-Eleven ถึง 95% , ไม่ใช่ 7-Eleven ราว 3% เเละส่งออก 2% มีการพัฒนาสินค้าใหม่มากกว่า 338 รายการ

ในปี 2564 บริษัทตั้งเป้าไว้ว่า จะทำรายได้ 21,310 ล้านบาท เเบ่งเป็นการจำหน่ายใน 7-Eleven ถึง 94% , ไม่ใช่ 7-Eleven ราว 4% เเละส่งออก 2% เเละมีเป้าหมายการขยายตลาดเพิ่มขึ้น 10%

“เรามองว่าวิกฤตเศรษฐกิจโลก จากผลกระทบของ COVID-19 จะยังคงมีต่อเนื่อง แต่จะคลี่คลายลงบ้างตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 เป็นต้นไป” 

โดยโครงการเมนูอิ่มคุ้ม” จะยังคงเป็นกลยุทธ์หลักของซีพีแรมเเละจะเพิ่มขึ้นอีก 50% นอกจากนี้ยังมีเเผนจะสร้าง ‘โรงงานเบเกอรี่แห่งใหม่’ ที่จังหวัดชลบุรี ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท มีกำลังผลิต 1.2 ล้านชิ้นต่อวัน ซึ่งโรงงานใหม่แห่งนี้ จะสร้างแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการได้กลางปี 2565 นับเป็นโรงงาน
เบเกอรี่แห่งที่
6 หรือโรงงานแห่งที่ 16 ของซีพีแรม โดยมองว่าตลาดเบเกอรี่ในไทยยังมีช่องว่างโอกาสให้เติบโตได้อีกมาก 

 

]]>
1319986
Plant-Based เทรนด์อาหารแห่งอนาคต Unilever ขยับรุกตลาดจริงจัง ตั้งเป้าทำเงิน 3.6 หมื่นล้าน https://positioningmag.com/1306712 Thu, 19 Nov 2020 09:19:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1306712 บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก ขยับมูฟใหม่เข้าสู่ตลาด Plant-Based กันอย่างต่อเนื่อง ตามเทรนด์อาหารโลกที่กำลังเปลี่ยนไป

ล่าสุด Unilever (ยูนิลิเวอร์) ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคเจ้าใหญ่ ตั้งเป้าปั้มยอดขายในส่วนของผลิตภัณฑ์อาหารเนื้อสัตว์ที่ทำจากพืช หรือ Plant-Based เพิ่มเป็น 1 พันล้านยูโร (ราว 3.6 หมื่นล้านบาท) ภายใน 5-7 ปีนี้

เป้าหมายดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่าบริษัทคาดว่าตลาด Plant-Based จะเติบโตสูงมากในอนาคตอันใกล้นี้ เมื่อเทียบกับเป้าหมายของยอดขายปัจจุบันที่ 200 ล้านยูโร (ราว 7.2 พันล้านบาท) ตามที่บริษัทตั้งไว้ในปีนี้

กลุ่มสินค้าแบรนด์เนื้อมังสวิรัติ กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จากกระเเสรักษ์โลกของผู้บริโภคยุคใหม่ที่เปลี่ยนพฤติกรรมหันมาบริโภคอาหารที่ทำมาจากพืช มากกว่าการบริโภคเนื้อสัตว์จริงๆ เพราะเห็นว่ากระบวนการผลิตเนื้อสัตว์ มีการปล่อยคาร์บอนที่เป็นภัยต่อการเปลี่ยนเเปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)

Hanneke Faber ประธานฝ่ายอาหารของ Unilever ซึ่งเป็นส่วนที่สร้างยอดขายให้บริษัทได้ถึง 1.93 หมื่นล้านยูโร (6.9 แสนล้านบาท) ในปี 2019 ระบุว่าในประเทศที่พัฒนาแล้ว สินค้า Plant-Based ยังมีส่วนเเบ่งการตลาด ราว 5% เเต่ต่อไปจะสามารถขยายตัวเเละครองตลาดได้ถึง 50%”

โดยต่อไป Unilever จะให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ Plant-Based ในกลุ่มไอศกรีมที่ปราศจากนมและมายองเนสไปจนถึงอาหารทดแทนเนื้อสัตว์จากถั่วเหลืองและสาหร่าย ฯลฯ

นักวิเคราะห์ มองว่า การที่บรรดาเจ้าใหญ่ในวงการกระโดดลงมาเล่นสนาม Plant-Based กันคึกคัก จะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชมีราคาถูกลงตามด้วยกำลังการผลิตและการจัดจำหน่ายที่เพิ่มมากขึ้น เเละจะทำให้อุตสาหกรรมนี้มีการขยายตัวครั้งใหญ่

อย่างการที่ Nestlé คู่แข่งรายสำคัญ หันมาทุ่มลงทุนในการพัฒนาสินค้าทางเลือกให้ผู้บริโภคสามารถทานอาหารที่มีรสชาติและผิวสัมผัสเหมือนเนื้อสัตว์จริง แต่ไม่มีกระบวนการปศุสัตว์ที่สร้างผลกระทบต่อโลก ก็เป็นการกระตุ้นการเเข่งขันในตลาดนี้ได้ดีทีเดียว 

ตอนนี้ผู้ผลิต Plant-Based ส่วนใหญ่จะเป็นพันธมิตรกับเชนฟาสต์ฟู้ดรายใหญ่เเละมุ่งเข้าตีตลาดซูเปอร์มาร์เก็ต เช่น Impossible Foods จับมือกับ Burger King ส่วน Beyond Meat กำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์กับ McDonald’s ในสหรัฐฯ สำหรับแพลตฟอร์ม McPlant ขณะที่ Nestlé ส่งวัตถุดิบเมนูเบอร์เกอร์จากพืชให้ McDonald’s ในเยอรมนี

สำหรับตลาด Plant-based Food ในประเทศไทย ก็เริ่มมีเชนร้านอาหารนำเนื้อทำจากพืชมาปรุงเป็นเมนูหลัก เช่น Sizzler ในเครือไมเนอร์ หรือร้านฌานาในเครือฟู้ดแพชชั่น รวมถึงมีนำเข้าจากต่างประเทศมาวางจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ตบางแห่งด้วย

จากข้อมูลของ NRF ผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ของไทย ระบุว่า ตลาดเนื้อที่ทำจากพืชปัจจุบันมีมูลค่ารวมทั่วโลก 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ มีแนวโน้มเติบโตขึ้นไปเป็น 80,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายใน 5 ปี เนื่องจากผู้บริโภคเห็นข้อดีของวัตถุดิบอาหารรูปแบบนี้มากขึ้น

ไม่ใช่เเค่ NRF รายเดียวที่กำลังเล็งตลาดนี้ เพราะบริษัทยักษ์ด้านอาหารของไทยอย่าง “เครือซีพี” และ “ไทยยูเนี่ยน” ก็กำลังมองความเป็นไปได้ในตลาด Plant-base Food เช่นกัน

อ่านต่อ : NRF ขอเป็น Foxconn แห่งตลาด Plant-based Food กางแผนขยายโรงงานทั่วโลก

 

ที่มา : Financial Times , The Guardian

]]>
1306712