chip – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 24 Jun 2024 07:01:34 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 สหรัฐฯ เตรียมควบคุมการลงทุนในจีน เช่น AI ควอนตัมคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่การผลิตชิป ชี้เป็นภัยความมั่นคงของประเทศ https://positioningmag.com/1477005 Mon, 24 Jun 2024 05:47:03 +0000 https://positioningmag.com/?p=1477005 สหรัฐอเมริกา เตรียมที่จะควบคุมการลงทุนในจีน เช่น AI ควอนตัมคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่การผลิตชิป ชี้เรื่องดังกล่าวนั้นเป็นภัยความมั่นคงของประเทศ และปกป้องการลงทุนที่อาจส่งผลย้อนกลับมาทำร้ายประเทศได้ ซึ่งมาตรการดังกล่าวนั้นแสดงให้เห็นความขัดแย้งที่เพิ่มมากขึ้นของ 2 มหาอำนาจ

รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ได้ออกร่างกฎหมายที่เตรียมควบคุมให้บริษัทหรือนักลงทุนรายบุคคลต้องมีการแจ้งเตือนรัฐบาลถ้าหากมีการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ควอนตัมคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่เทคโนโลยีการผลิตชิป

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวตามหลังมาจากในเดือนสิงหาคมปี 2023 ที่ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ได้เตรียมออกกฎเกณฑ์กำหนดให้บุคคลและบริษัทในสหรัฐฯ ต้องส่งเรื่องให้กับหน่วยงานรัฐเพื่อพิจารณาว่าธุรกรรมการลงทุนในประเทศจีน ซึ่งบางธุรกรรมอาจถูกจำกัดหรือมีสิทธิ์ที่จะถูกแบนได้

ร่างดังกล่าวนั้นส่งผลต่อการลงทุนไม่ว่าจะเป็นการลงทุนทั้งในหุ้นบริษัท หุ้นกู้ หรือแม้แต่การกู้เงิน และยังรวมถึงการร่วมทุนกับบริษัทหรือบุคคลในฝั่งจีนด้วย

Paul Rosen ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ ที่ดูแลด้านความมั่นคงด้านการลงทุน ได้กล่าวว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวที่เสนอนี้ทำให้ความมั่นคงของชาติของเราก้าวหน้าขึ้นโดยป้องกันผลประโยชน์การลงทุนของสหรัฐฯ ที่บางประเทศที่ใช้เพื่อคุกคามความมั่นคงต่อประเทศชาติ

แผนการดังกล่าวนี้ต้องการที่จะชะลอในการพัฒนาเทคโนโลยีที่คุกคามความมั่นคงขอสหรัฐฯ ซึ่งจีนต้องการที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำหรือไล่ตามสหรัฐฯ ให้ใกล้เคียงมากที่สุด และจำกัดไม่ให้จีนเข้าถึงด้านเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งสามารถที่จะนำไปใช้ในทางทหารได้

นอกจากนี้ร่างกฎหมายยังห้ามไม่ให้บริษัทหรือนักลงทุนรายบุคคลลงทุนในเทคโนโลยี AI ที่มีความเสี่ยงว่าจะใช้ในการทหาร และยังจะต้องมีการแจ้งเตือนรัฐบาลถ้าหากมีการพัฒนาเทคโนโลยี AI หรือแม้แต่ในด้านเซมิคอนดักเตอร์

ในช่วงที่ผ่านมาสหรัฐได้ออกมาตรการเพื่อไม่ให้จีนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีสำคัญๆ เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจำกัดไม่ให้เข้าถึงชิปเร่งการประมวลผล AI ของ Nvidia จนทำให้ภาคเอกชนจีนต้องรีบซื้อชิปดังกล่าวจำนวนมาก หรือแม้แต่การขอร้องให้ชาติพันธมิตรอย่าง ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ไม่ให้จีนเข้าถึงอุปกรณ์การผลิตชิปรุ่นใหม่ล่าสุด

ไม่เพียงเท่านี้บริษัทในสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทที่เน้นลงทุนในเหล่าสตาร์ทอัพ (VC) ได้ลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีในประเทศจีนเป็นจำนวนมาก ก่อนที่จะชะลอตัวลงไปเนื่องจากความขัดแย้งของ 2 มหาอำนาจที่เพิ่มมากขึ้นนับตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา

และกรณีดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนที่เริ่มลุกลามบานปลายเพิ่มมากขึ้น ไม่มีท่าทีที่จะชะลอตัวลงแต่อย่างใด

ที่มา – Al Jazeera, Reuters

]]>
1477005
TSMC และ ASML สามารถสั่งปิดเครื่องผลิตชิปรุ่นไฮเทคไม่ให้ทำงานได้ทันที ในกรณีถ้าจีนบุกไต้หวันขึ้นมาจริงๆ https://positioningmag.com/1474601 Tue, 21 May 2024 09:19:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1474601 นักวิเคราะห์หลายแห่งได้มองว่าการที่จีนบุกไต้หวันนั้น ส่วนหนึ่งมาจากไต้หวันมีเทคโลยีการผลิตชิปที่ทันสมัยซึ่งเป็นสิ่งที่จีนไม่มี แต่ล่าสุดมีรายงานข่าวจาก Bloomberg ว่าถ้าหากจีนบุกไต้หวันขึ้นมาจริงๆ เครื่องผลิตชิปไฮเทคเหล่านี้จะถูกปิดการทำงานทันที และไม่สามารถใข้งานได้

สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของไต้หวัน และ ASML ผู้ผลิตเครื่องผลิตชิปนั้นสามารถที่จะสั่งปิดการทำงานของเครื่องผลิตชิปรุ่นไฮเทคอย่างรุ่น EUV ได้ทันทีถ้าหากจีนมีการบุกเกาะไต้หวัน

แหล่งข่าวของสื่อรายดังกล่าวชี้ว่า ตัวแทนของ ASML ได้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ในเรื่องดังกล่าว ซึ่งสอดคล้องกับประธานของ TSMC เคยกล่าวว่าถ้าหากจีนได้ใช้กำลังทางทหารแล้วก็จะไม่สามารถทำการผลิตชิปที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงได้

เครื่องผลิตชิปรุ่นไฮเทคอย่างรุ่น EUV ที่มีขนาดใหญ่เท่ากับขนาดรถบัสขนาดใหญ่ 1 คันของ ASML นั้นสามารถที่จะผลิตชิปขนาดต่ำกว่า 5 นาโนเมตรลงมาได้ เช่น ขนาด 3 นาโนเมตร ซึ่งชิปเหล่านี้มีความไฮเทค กินพลังงานต่ำ ประสิทธิภาพสูงกว่าชิปทั่วไปหลายเท่าตัว

ปัจจุบันการผลิตชิปในระดับ 5 นาโนเมตรลงมา แหล่งการผลิตที่ใหญ่ที่สุดคือไต้หวัน ซึ่งมีสัดส่วนมากถึง 90%

ในขณะที่จีนสามารถผลิตชิปได้ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตรเท่านั้น โดยใช้เครื่องผลิตชิป DUV ของ ASML ซึ่งไม่สามารถผลิตชิปที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตไฮเทคได้ ส่งผลทำให้จีนมีความพยายามอย่างมากในการที่จะผลิตชิปที่ทันสมัยกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนเม็ดเงิน หรือแม้แต่การวิจัย

นอกจากนี้ในรายงานดังกล่าวยังได้กล่าวถึงเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ได้แสดงความกังวลในกรณีถ้าหากจีนได้บุกไต้หวันกับเนเธอร์แลนด์ซึ่งมีสำนักงานและโรงงานผลิตเครื่องผลิตชิปของ ASML รวมถึงไต้หวัน ว่าจะมีวิธีการใดที่จะทำให้จีนนั้นไม่สามารถเข้าถึงกระบวนการผลิตชิปรุ่นใหม่ โดยเฉพาะชิปที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง

ASML ถือเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ถูกรัฐบาลหลายประเทศเข้าแทรกแซง เนื่องจากบริษัทเป็นเพียงบริษัทเดียวในโลกที่สามารถผลิตเครื่องผลิตชิปที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้ามากที่สุด (ณ ช่วงเวลานี้) โดยสหรัฐฯ ได้กดดันผ่านรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ไม่ให้ขายหรือแม้แต่ซ่อมบำรุงเครื่องผลิตชิปให้กับจีนอีกต่อไป ขณะที่จีนเองก็กดดันบริษัทให้ขายหรือแม้แต่มีการเข้าบำรุงดูแลเครื่องผลิตชิป

ขณะที่เนเธอร์แลนด์ได้มีการทดสอบโมเดลจำลองว่าถ้าหากจีนบุกไต้หวันจริงๆ จะมีความเสี่ยงด้านใดบ้าง ซึ่ง 1 ในปัจจัยเสี่ยงคือเครื่องผลิตชิปจาก ASML นั่นเอง และปัจจุบัน ASML มีลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของบริษัทนั่นก็คือ TSMC

]]>
1474601
เขากลับมาแล้ว! Masayoshi Son เตรียมตั้งกองทุนเกี่ยวกับชิปด้าน AI มูลค่าสูงถึง 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ https://positioningmag.com/1463264 Tue, 20 Feb 2024 03:24:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1463264 Masayoshi Son ซึ่งเป็น CEO ของ SoftBank เตรียมตั้งกองทุนเกี่ยวกับชิปด้าน AI มูลค่าสูงถึง 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ โดยเน้นลงทุนในบริษัทชิปที่เกี่ยวข้องกับด้าน AI โดยเฉพาะ และขอเป็นผู้ท้าชิงในอุตสาหกรรมดังกล่าวกับ Nvidia ซึ่งครองตลาดชิปเร่งการประมวลผล AI อยู่ในเวลานี้

สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า Masayoshi Son ซึ่งเป็น CEO ของ SoftBank เตรียมที่จะจัดตั้งกองทุนเพื่อที่จะลงทุนในด้านการผลิตชิปสำหรับเร่งการประมวลผลด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยเฉพาะ คาดว่าขนาดของกองทุนนั้นจะใหญ่มากถึง 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 3.6 ล้านล้านบาท

โครงการดังกล่าวมีชื่อเรียกภายในบริษัทว่า Izanagi โดยกองทุนดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมให้ ARM บริษัทออกแบบชิปที่ SoftBank เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ สามารถที่จะเป็นผู้ท้าชิงในอุตสาหกรรมดังกล่าวกับ Nvidia ซึ่งครองตลาดชิปเร่งการประมวลผล AI อยู่ในเวลานี้

สำหรับการจัดตั้งกองทุนนั้นคาดว่าเม็ดเงินราวๆ 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จะมาจาก SoftBank ซึ่งมีเม็ดเงินเหลือเฝืออยู่ในบริษัทอยู่แล้ว ขณะที่ 70,000 ล้านเหรียญคาดว่าจะมาจากนักลงทุนในตะวันออกกลาง

ถ้าหาก SoftBank ตั้งกองทุนได้สำเร็จก็จะกลายเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในบริษัทด้าน AI กองทุนใหญ่กองหนึ่งของโลก ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทประสบความสำเร็จในการจัดตั้งกองทุนขนาดยักษ์อย่าง SoftBank Vision Fund ที่ลงทุนในสตาร์ทอัพมาแล้ว

ความต้องการในการผลิตชิปเร่งการประมวลผล AI เพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นทั้งบริษัทในสหรัฐอเมริกาอย่าง OpenAI เองก็มีแผนที่จะระดมทุนเพื่อสร้างโรงงานผลิตชิป หรือแม้แต่บริษัทจีนอย่าง Huawei เองก็ต้องให้ความสำคัญกับการผลิตชิปสำหรับ AI ก่อนด้วยซ้ำ

ก่อนหน้านี้ CEO ของ SoftBank มีความสนใจในเรื่องของ AI อย่างมาก และมีการพูดคุยกับ CEO ของ OpenAI อย่าง Sam Altman บ่อยครั้ง นอกจากนี้เขายังเคยกล่าวเรื่องเทคโนโลยี AI กับชาวญี่ปุ่นว่า “จะนำมันมาใช้หรือถูกทิ้งไว้ข้างหลังอีกครั้ง” มาแล้ว

]]>
1463264
รัฐบาลญี่ปุ่นทุ่มเงินเกือบ 11,000 ล้านบาท สนับสนุนการพัฒนาชิป 2 นาโนเมตร รวมถึงชิปที่เกี่ยวข้องกับ AI https://positioningmag.com/1462515 Tue, 13 Feb 2024 07:47:18 +0000 https://positioningmag.com/?p=1462515 รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศทุ่มเงินเกือบ 11,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการพัฒนาชิป 2 นาโนเมตรให้ได้ภายในปี 2027 และยังรวมถึงการพัฒนาชิปที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลด้านปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวกำลังมีบทบาทสำคัญในอนาคต

รัฐบาลญี่ปุ่นได้ทุ่มเงินมากถึง 45,000 ล้านเยน หรือคิดเป็นเงินไทยเกือบ 11,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการพัฒนาชิปสำหรับ AI หรือแม้แต่เทคโนโลยีการผลิตชิปให้ได้ 2 นาโนเมตรให้ได้ภายในปี 2027 หลังจากที่ญี่ปุ่นได้ทุ่มทุนในการดึงอุตสาหกรรมไฮเทคเข้ามาในประเทศมากขึ้น

เม็ดเงินวิจัยและพัฒนาชิปจะนำไปใช้โดย Leading-Edge Semiconductor Technology Center ซึ่งมีการก่อตั้งในปี 2022 โดยแยกเป็น 28,000 ล้านเยนสำหรับพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการออกแบบชิปรุ่นต่อไปสำหรับปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเม็ดเงินอีกส่วน 17,000 พันล้านเยนสำหรับพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิป 2 นาโนเมตรหรือดีกว่าให้ได้

สำหรับ Leading-Edge Semiconductor Technology Center นั้นมีแกนนำคือ มหาวิทยาลัยโตเกียว AIST ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลญี่ปุ่น รวมถึง Rapidus บริษัทร่วมทุนของภาคเอกชนญี่ปุ่นเพื่อพัฒนาการผลิตชิป ซึ่งประกอบไปด้วยบริษัทอย่าง Sony NTT SoftBank Toyota ฯลฯ

โดย Leading-Edge Semiconductor Technology Center การวิจัยมีทั้งในเรื่องเทคโนโลยีการผลิต หรือแม้แต่วัสดุในการผลิตชิป ซึ่งญี่ปุ่นเองถือเป็นประเทศที่ส่งออกวัตถุดิบในการผลิตชิปอันดับต้นๆ ของโลก และจะมีการร่วมมือกับบริษัททั้งในญี่ปุ่นรวมถึงผู้เล่นสำคัญที่อยู่ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

ก่อนหน้านี้ Fumio Kishida นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ต้องการให้มีการผลิตชิปในประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง และหวังว่าแผนการดังกล่าวทำให้ญี่ปุ่นสามารถกลับมาเป็นผู้นำในด้านนี้ได้ หลังจากที่เกิดความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ โดยที่รัฐบาลเตรียมให้เม็ดเงินและสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อที่จะเพิ่มกำลังการผลิตชิปในญี่ปุ่นมากถึง 3 เท่าภายในปี 2030

ซึ่งบริษัทที่สนใจเข้าไปตั้งโรงงานผลิตชิปในญี่ปุ่นก็คือ TSMC และยังมีการประกาศตั้งโรงงานเพิ่มเติมที่จะผลิตชิปด้วยเทคโนโลยี 3 นาโนเมตร

ขณะเดียวกัน Rapidus เองซึ่งเป็นบริษัทของญี่ปุ่นได้วางเป้าหมายที่จะผลิตชิปด้วยเทคโนโลยี 1.4 นาโนเมตรให้ได้ภายในปี 2028

ที่มา – Reuters, JiJi, Nikkei Asia

]]>
1462515
CEO ของ Nvidia มองสหรัฐฯ ต้องใช้เวลา 10-20 ปีในการเป็นอิสระจาก Supply Chain ของจีนในการผลิตชิป https://positioningmag.com/1454142 Fri, 01 Dec 2023 09:06:11 +0000 https://positioningmag.com/?p=1454142 CEO ของผู้ผลิตชิปอย่าง Nvidia ได้กล่าวในงานสัมมนาของหนังสือพิมพ์ New York Times ว่าสหรัฐฯ ต้องใช้เวลา 10-20 ปีในการเป็นอิสระจาก Supply Chain ของจีนในการผลิตชิป และสหรัฐฯ เองกำลังเดินเข้าสู่เส้นทางดังกล่าว

Jensen Huang ซึ่งเป็น CEO ของ Nvidia ได้กล่าวในงานสัมมนาของ New York Times Dealbook โดยให้มุมมองว่าสหรัฐอเมริกายังต้องใช้เวลา 10-20 ปีในการเป็นอิสระจาก Supply Chain ของการผลิตชิปจากจีน ซึ่งจีนเองถือเป็นประเทศสำคัญในห่วงโซ่การผลิตชิป

CEO ของ Nvidia กล่าวว่ากล่าวว่า “Supply Chain ในการผลิตชิปในสหรัฐอเมริกานั้นไม่ได้เป็นอิสระมาเป็นระยะเวลาหนึ่งหรือสองทศวรรษ” ซึ่งเขามองว่าถ้าหากสหรัฐอเมริกาจะเป็นอิสระจากเรื่องดังกล่าวได้ก็ต้องใช้ระยะเวลาเท่ากัน และเขาเองได้กล่าวว่าสหรัฐอเมริกากำลังเลือกเดินเส้นทางดังกล่าวด้วย

เมื่อเขาถูกถามว่า Nvidia ควรทำธุรกิจกับจีนต่อไปหรือไม่ Huang กล่าวว่า Nvidia เป็นบริษัทที่สร้างขึ้นเพื่อทำธุรกิจ ดังนั้นเราจึงพยายามทำธุรกิจกับทุกคนที่เราสามารถทำได้ แต่ในทางกลับกันความมั่นคงของชาตินั้นมีความสำคัญและความสามารถในการแข่งขันของประเทศของเราเช่นกัน

Nvidia เองถือเป็นบริษัทที่ได้รับผลกระทบทันทีหลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกมาตรการห้ามส่งออกชิปเร่งการประมวลผลด้าน AI ไปยังประเทศจีน หรือแม้แต่ผ่านประเทศที่ 3 ก็ตาม แม้ว่าก่อนหน้านี้บริษัทจะผลิตชิปรุ่นสำหรับส่งออกไปยังประเทศจีนก็ตาม

ขณะเดียวกัน รัฐบาลสหรัฐฯ จะมีมาตรการในการอุดหนุนให้ผู้ผลิตชิปเข้ามาผลิตในประเทศก็ตาม โดยใช้เม็ดเงินมากถึง 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อดึงดูดให้ผู้ผลิตชิปเข้าไปลงทุนในแผ่นดินสหรัฐอเมริกามากขึ้น

Huang ถือเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Nvidia ในปี 1993 ซึ่งปัจจุบันผู้ผลิตชิปรายดังกล่าวไม่ได้ถูกมองว่าเป็นแค่ผู้ผลิตหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) อีกต่อไป แต่กลายเป็นผู้ผลิตชิปที่เร่งการประมวลผลด้าน AI โดยนักวิเคราะห์บางรายมองว่า Nvidia นั้นจะมีรายได้จากการขายชิปดังกล่าวมากถึง 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2027

ในท้ายที่สุดนั้นตัวของ Huang มองว่าจีนจะหาวิธีในการคิดค้นเทคโนโลยีในการเร่งประมวลผลด้าน AI ให้ได้ และมองว่าถ้าหากชิปของ Nvidia ผ่านข้อกำหนดของรัฐบาลในการส่งออกไปยังประเทศจีนได้ บริษัทก็จะกลับไปขายสินค้าให้กับลูกค้าในประเทศจีนอีกครั้ง

ที่มา – Tom’s Hardware, CNBC

]]>
1454142
จีนนำเข้าชิปลดลงเกือบ 15% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2023 ผลจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ผลิตเองในประเทศ https://positioningmag.com/1448027 Sun, 15 Oct 2023 08:50:36 +0000 https://positioningmag.com/?p=1448027 ปริมาณการนำเข้าชิปของประเทศจีน 9 เดือนแรกของในปี 2023 นั้นลดลงเกือบ 15% สาเหตุสำคัญคือมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังรวมถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศที่ต้องการหลีกเลี่ยงมาตรการดังกล่าว

South China Morning Post รายงานข่าวโดยอ้างอิงข้อมูลของสำนักงานศุลกากรของจีนว่าในช่วง 9 เดือนแรกจีนมีปริมาณนำเข้าชิป 355,900 ล้านชิ้น ลดลงเกือบ 15% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2022 ซึ่งอยู่ที่ 416,700 ล้านชิ้น

ไม่เพียงเท่านี้การนำเข้าชิปจากพันธมิตรสหรัฐฯ ของจีน ไม่ว่าจะเป็น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้เล่นหลักอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ด้วย โดยการนำเข้าชิปจากเกาหลีใต้ลดลง 23% จากไต้หวันลดลง 20% และญี่ปุ่นลดลง 16.3%

ถ้าหากมองมูลค่าการนำเข้าชิปในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้จะพบว่าอยู่ที่ 252,900 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงมากถึง 19.8% เมื่อเทียบกับปี 2022 ที่ผ่านมา

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้จีนนำเข้าสินค้าประเภทเซมิคอนดักเตอร์ลดลงนั้นมากจากมาตรการคว่ำบาตรของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ซึ่งประเด็นของเทคโนโลยีได้กลายเป็นประเด็นสำคัญของความขัดแย้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

ความไม่แน่ใจของบริษัทเทคโนโลยีจีนจำนวนมากที่พบว่าตัวเองต้องเผชิญ แต่บริษัทเทคโนโลยีจีนหลายแห่งทั้ง Tencent และ Alibaba หรือแม้แต่ ByteDance ฯลฯ ยังคงดำเนินโครงการพัฒนาต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการพัฒนาด้าน AI ที่มีการนำเข้าชิปของ Nvidia ล่วงหน้าเป็นมูลค่ารวมกันมากถึง 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

บริษัทเทคโนโลยีจีนเหล่านี้ต้องรีบนำเข้าชิปจากสหรัฐอเมริกา หรือประเทศพันธมิตร เนื่องจากกังวลถึงมาตรการที่สหรัฐเตรียมห้ามส่งออกชิปไว้สำหรับเร่งการประมวลผล เนื่องจากกังวลว่าจีนจะนำไปใช้ในการฝึก AI ซึ่งอาจสร้างผลกระทบต่อแดนมะกันหลังจากนี้ได้

ขณะเดียวกันจีนได้ตั้งเป้าที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เป็นของตัวเองมากขึ้นในปี 2023 นี้ ไม่ว่าจะโรงงานผลิตชิปของ Huawei ซึ่งเป็นโครงการลับ และได้รับการสนับสนุนเม็ดเงินจากรัฐบาลจีนเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านหยวน เพื่อผลิตชิปภายในประเทศ ลดการนำเข้าและหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ

อย่างไรก็ดีสหรัฐอเมริกาเองเตรียมที่จะออกมาตรการห้ามส่งออกเพิ่มเติม หลังจากที่บริษัทจีนหลายแห่งอาจใช้บางประเทศในตะวันออกกลางในการนำเข้าชิป โดยมาตรการล่าสุดคือทางการสหรัฐอเมริกาห้ามไม่ให้ Nvidia ส่งออกชิปประมวลผล AI ไปยังบางประเทศในตะวันออกกลางแล้ว รวมถึงมาตรการที่เกี่ยวข้องอื่นๆ

]]>
1448027
มาอีกบริษัท Xiaomi เตรียมพัฒนาชิปเป็นของตัวเอง ใช้งานในโทรศัพท์มือถือและรถยนต์ไฟฟ้า https://positioningmag.com/1443243 Sun, 03 Sep 2023 13:14:45 +0000 https://positioningmag.com/?p=1443243 Xiaomi บริษัทผู้ผลิตสินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศจีน เตรียมที่จะพัฒนาชิปของบริษัทเป็นของตัวเอง ซึ่งจะใช้งานในโทรศัพท์มือถือและรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัท ซึ่งจะมีการวางขายในช่วงปีหน้า แต่รายละเอียดนั้นยังมีไม่มากนัก

เว็บไซต์ IT Home รวมถึง TechGoing ได้รายงานข่าวโดยอ้างอิง Blogger สายไอทีในประเทศจีนที่ได้เข้าไปในงานแถลงข่าวภายในบริษัทว่ายักษ์ใหญ่ผู้ผลิตสินค้าไอทีอย่าง Xiaomi ได้เตรียมพัฒนาชิปเป็นของตัวเอง เพื่อที่จะใช้งานในโทรศัพท์มือถือและรถยนต์ไฟฟ้า

ก่อนหน้านี้ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม มีข่าวที่ว่ารถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทนั้นมีแผนที่จะวางจำหน่ายในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2024 มาแล้ว โดยคาดว่าจะมีการผลิตในปีแรกที่ 100,000 คัน ซึ่งความเคลื่อนไหวล่าสุดนั้นรถยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้ที่กำลังจะวางจำหน่ายจะใช้ชิปของบริษัทที่ผลิตขึ้น

Blogger รายดังกล่าวยังรายงานว่า ในประเด็นของการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Lu Weibing ซึ่งเป็นประธานของ Xiaomi ได้กล่าวว่า การผลิตนั้นราบรื่นเป็นไปได้ด้วยดี และเขายังได้กล่าวเสริมว่าบริษัทต้องการที่จะเป็น 1 ใน 5 แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าในระยะยาวให้ได้ด้วย หลังจาก Xiaomi ได้ลงทุนและวิจัยอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงการสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้เงินจำนวนมาก

สำหรับราคารถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทนั้นคาดว่าเริ่มต้นอยู่ที่ 100,000 หยวน ขณะที่รุ่นแพงสุดจะอยู่ที่ 300,000 หยวน ไม่เพียงเท่านี้บริษัทยังวางแผนที่จะเปลี่ยนสาขาที่ขายอุปกรณ์ไอทีหลายแห่งในประเทศจีนให้กลายเป็นโชว์รูมรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทแทนด้วย

นอกจากการพัฒนาชิปแล้ว บริษัทยังได้จดทะเบียนเว็บไซต์ mios.cn กับกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน แต่เว็บไซต์นั้นยังไม่มีข้อมูลอะไร โดยคาดว่าจะเป็นเว็บไซต์สำหรับระบบปฎิบัติการ MiOS ของบริษัทกำลังพัฒนาอยู่ในเวลานี้

อย่างไรก็ดีสำหรับรายละเอียดของชิปที่บริษัทพัฒนา ยังไม่มีรายละเอียดมากนัก แต่บริษัทผู้ผลิตหลายแห่งได้เริ่มเปลี่ยนแนวทางการผลิตมาใช้ชิปที่พัฒนาเป็นของตัวเองไม่ว่าจะเป็น Apple หรือ Alphabet ในโทรศัพท์มือถือหรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ หรือแม้แต่บริษัทจีนเองอย่าง HiSilicon ก็พัฒนาชิปโทรศัพท์มือถือให้กับ Huawei

ที่มา – IT Home, TechGoing

]]>
1443243
บริษัทเทคโนโลยีจีนเริ่มไล่ซื้อชิปประมวลผล AI ของ Nvidia จำนวนมาก หลังสหรัฐฯ เตรียมห้ามส่งออก https://positioningmag.com/1440913 Sun, 13 Aug 2023 15:47:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1440913 บริษัทเทคโนโลยีในประเทศจีน ไม่ว่าจะเป็น Baidu ByteDance Tencent และ Alibaba ได้สั่งซื้อชิป AI ของ Nvidia รวมถึงการ์ดประมวลผลกราฟิกเป็นมูลค่ารวมกันมากถึง 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังจะห้ามส่งออกชิปประมวลผลด้าน AI ของ Nvidia ในเร็วๆ นี้

Financial Times รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกียวข้องว่า บริษัทเทคโนโลยีในประเทศจีน ได้เตรียมสั่งชิปของ Nvidia เป็นมูลค่ารวมกันมากถึง 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากกังวลถึงมาตรการที่สหรัฐเตรียมห้ามส่งออกชิปไว้สำหรับเร่งการประมวลผล เนื่องจากกังวลว่าจีนจะนำไปใช้ในการฝึก AI ซึ่งอาจสร้างผลกระทบต่อแดนมะกันหลังจากนี้ได้

บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น Baidu ByteDance Tencent และ Alibaba ได้สั่งซื้อชิปรุ่น A800 เป็นจำนวนมากถึง 100,000 ชุด เป็นมูลค่ามากถึง 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะเดียวกันก็ยังได้สั่งการ์ดประมวลผลกราฟิกอีกเป็นมูลค่ามากถึง 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะส่งมอบในปี 2024

ชิปรุ่น A800 ดังกล่าวจากทาง Nvidia นั้นบริษัทจีนได้นำมาใช้ในการฝึก AI อย่างไรก็ดีชิปดังกล่าวนี้มีประสิทธิภาพการประมวลผลต่ำกว่าชิปรุ่น A100 และ H100 เนื่องจากย้อนไปช่วงต้นปีที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ห้ามไม่ให้ Nvidia ขายชิปรุ่นดังกล่าวให้ ส่งผลทำให้บริษัทได้ปรับแต่งชิปให้สามารถส่งออกมายังประเทศจีนได้

แต่ล่าสุดนั้นรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังจะจำกัดการส่งออกชิปรุ่น A800 ด้วย โดยเหตุผลหลักการจำกัดการส่งออกชิปที่เกี่ยวข้องกับ AI ในรอบนี้เนื่องจากหน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ กังวลความสามารถของ AI ซึ่งอาจช่วยในการเขียนโปรแกรม และช่วยให้จีนสามารถจารกรรมข้อมูล ไปจนถึงการใช้ AI เพื่อที่จะพัฒนาอาวุธมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น หรือแม้แต่การพัฒนาอาวุธเคมี

ประเด็นดังกล่าวส่งผลทำให้ชิปรุ่น A800 ดังกล่าวกำลังจะโดนจำกัดการส่งออก ทำให้บริษัทเทคโนโลยีในจีนรีบสั่งซื้อชิปรุ่นดังกล่าวก่อนที่จะไม่สามารถสั่งซื้อได้หลังจากนี้

พนักงานของ Baidu คนหนึ่งซึ่งปฏิเสธที่จะเปิดเผยชื่อกล่าวกับ Financial Times ว่า ถ้าหากไม่มีชิป Nvidia เหล่านี้ เราก็ไม่สามารถดำเนินการฝึก AI ผ่านโมเดลต่างๆ ได้

ผลกระทบดังกล่าวยังทำให้ราคาชิปรุ่น A800 ที่วางขายตามท้องตลาดมีราคาสูงขึ้นมากถึง 50% ในช่วงที่ผ่านมาจากความต้องการชิปรุ่นดังกล่าว

]]>
1440913
SoftBank นำ Arm บริษัทออกแบบชิปเข้า IPO ช่วงเดือนกันยายนนี้ คาดมูลค่าบริษัทสูงถึง 2 ล้านล้านบาท https://positioningmag.com/1440223 Tue, 08 Aug 2023 11:44:22 +0000 https://positioningmag.com/?p=1440223 สื่อธุรกิจของญี่ปุ่นอย่าง Nikkei Asia รายงานว่า SoftBank เตรียมนำ Arm บริษัทออกแบบชิปจากประเทศอังกฤษเข้า IPO ในตลาดหุ้นช่วงเดือนกันยายนนี้ คาดว่ามูลค่าธุรกิจจะสูงมากถึง 2 ล้านล้านบาท

Nikkei Asia รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า SoftBank บริษัทด้านโทรคมนาคมและยังเป็นบริษัทลงทุนในด้านเทคโนโลยีต่างๆ เตรียมนำ Arm บริษัทออกแบบชิปเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) โดยคาดว่ามูลค่าบริษัทจะสูงมากถึง 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 2 ล้านล้านบาท

โดย Arm จะยื่นเอกสารไฟลิ่งให้กับ ก.ล.ต. สหรัฐฯ ภายในเดือนสิงหาคมนี้ และคาดว่าบริษัทออกแบบชิปรายนี้จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ในช่วงเดือนกันยายนนี้ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า Apple Samsung Intel Nvidia เตรียมตบเท้าเข้าร่วมลงทุนในบริษัทออกแบบชิปรายดังกล่าวด้วย

สำหรับสัดส่วนผู้ถือหุ้นของ Arm นั้นประกอบไปด้วย SoftBank ถือหุ้นในสัดส่วน 75% และกองทุน Vision Fund ถือหุ้นอีก 25% คาดว่ากองทุนดังกล่าวจะขายหุ้นออกมาสัดส่วน 10-15% หลังจากเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เรียบร้อยแล้ว

Arm ซึ่งบริษัทสัญชาติอังกฤษ นั้นเป็นผู้ออกแบบชิปประมวลผล มีผู้ที่ใช้การออกแบบชิปทั่วโลกตั้งแต่สหรัฐอเมริกาจนถึงประเทศจีน มีลูกค้ารายใหญ่ไม่ว่าจะเป็น Apple Samsung Qualcomm หรือแม้แต่ Huawei ซึ่งชิปที่บริษัทเหล่านี้ใช้งานจากการออกแบบพิมพ์เขียวของ Arm มีทั้งชิปประมวลผล ไปจนถึงชิปใช้งานเฉพาะทาง

ปัจจุบันมีการใช้การออกแบบของ Arm ในชิปโทรศัพท์มือถือในท้องตลาดเป็นสัดส่วนสูงมากถึง 90%

SoftBank ได้ซื้อกิจการของผู้ออกแบบชิปรายนี้ออกจากตลาดหุ้นอังกฤษในปี 2016 มูลค่ามากถึง 31,400 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากความสำคัญของบริษัทในอนาคต

ในปี 2020 นั้น SoftBank มีความพยายามขายกิจการให้กับผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่อย่าง Nvidia เป็นมูลค่าสูงถึง 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ท้ายที่สุดบริษัทโดนหน่วยงานกำกับดูแลจากหลายประเทศขวางไว้ รวมถึงคู่แข่งหรือแม้แต่ลูกค้าอย่าง Qualcomm ไปจนถึง Huawei เนื่องจากกังวลว่าเมื่อ Arm ตกอยู่ภายใต้ยักษ์ใหญ่ Nvidia จะทำให้การเข้าถึงการออกแบบชิปยากมากขึ้น

เรื่องของปัจจัยการออกแบบดังกล่าวนี้ที่เชื่อกันว่า เป็นเหตุผลหลักทำให้ SoftBank ซื้อกิจการ Arm จนกลายเป็นดีลมูลค่ามหาศาล จนท้ายที่สุดบริษัทก็ได้นำกลับเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้นอีกรอบภายในระยะเวลา 7 ปี ซึ่งคาดว่ามูลค่าการระดมทุนนั้นจะมากที่สุดบริษัทหนึ่งในปี 2023 นี้

]]>
1440223
จีนขอเนเธอร์แลนด์ไม่งดส่งออกอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการผลิตชิป ชี้ถ้าแบนอาจสร้างผลกระทบทั่วโลก https://positioningmag.com/1436261 Sun, 02 Jul 2023 05:43:44 +0000 https://positioningmag.com/?p=1436261 หลังจากที่รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ได้แบนการส่งออกอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตชิป โดยให้เหตุผลเรื่องของความมั่นคงนั้น ล่าสุดจีนได้ขอให้เนเธอร์แลนด์ไม่งดการส่งออกอุปกรณ์ดังกล่าว โดยชี้ว่าเรื่องดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตชิปทั่วโลก

สำนักข่าว Reuters และ Xinhua ได้รายงานข่าวว่า รัฐบาลจีนได้ขอร้องให้รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ ไม่งดส่งออกอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เนื่องจากรัฐบาลของทั้ง 2 ประเทศนี้ได้มีข้อตกลงระหว่างกัน และไม่ควรที่จะห้ามการส่งออก เนื่องจากจะขัดข้อตกลงที่ทำไว้

ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลจีนเกิดขึ้น หลังจากเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมารัฐบาลของเนเธอร์แลนด์ได้มีการประกาศแบนการส่งออกอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ไปยังประเทศจีน

ข้อกำหนดของรัฐบาลเนเธอร์แลนด์คือ ถ้าหากบริษัทส่งออกอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ไปยังประเทศจีน โดยเฉพาะการผลิตชิปที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง จะต้องได้รับไฟเขียวจากรัฐบาลหลังจากวันที่ 1 กันยายนเป็นต้นไป

โดยเหตุผลสำคัญของเนเธอร์แลนด์ก็คือเพื่อปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของประเทศ และข้อตกลงดังกล่าวนี้เนเธอร์แลนด์และญี่ปุ่นได้ทำข้อตกลงกับสหรัฐอเมริกา เพื่อที่จะจำกัดความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของประเทศจีน

ผลกระทบดังกล่าวจะกระทบกับบริษัทอย่าง ASML ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตเครื่องสำหรับผลิตชิปรายใหญ่ของโลกที่มีฐานการผลิตในเนเธอร์แลนด์จะไม่สามารถส่งออกเครื่องรุ่นที่มีศักยภาพสูงซึ่งสามารถผลิตชิปที่มีขนาดเล็กกว่า 5 นาโนเมตรไปยังจีนได้ โดยชิ้นส่วนในเครื่องผลิตชิปของ ASML หลายชิ้นส่วนมาจากบริษัทในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีข้อกำหนดห้ามส่งออกชิ้นส่วนไปยังจีนอยู่แล้ว

ฝ่ายของจีนได้ออกมากล่าวว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวของสหรัฐฯ และพันธมิตรได้สร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก และยังกล่าวว่ารัฐบาลจีนได้กล่าวว่าทั้ง 2 ประเทศนั้นมีการสื่อสารระหว่างกันในหัวข้อต่างๆ บ่อยครั้ง

นอกจากนี้ ฝั่งจีนเรียกร้องให้เนเธอร์แลนด์ปกป้องผลประโยชน์ร่วมกันของภาคเอกชนของ 2 ประเทศอย่างจริงจัง และรักษาเสถียรภาพของห่วงโซ่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และเรื่องของ Supply Chain ของอุตสาหกรรมผลิตชิปทั่วโลกด้วย

]]>
1436261