รถยนต์ไร้คนขับ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Sun, 20 Mar 2022 10:35:28 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘GM’ ทุ่ม 2.1 พันล้านซื้อหุ้น Cruise ของ ‘SoftBank’ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีไร้คนขับ https://positioningmag.com/1378239 Sun, 20 Mar 2022 09:03:23 +0000 https://positioningmag.com/?p=1378239 ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่แข่งกันพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าแล้ว แต่กำลังแข่งขันกันพัฒนา เทคโนโลยีไร้คนขับ ด้วย โดยล่าสุด ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของอเมริกาอย่าง General Motors หรือ GM ก็กำลังซื้อหุ้นมูลค่า 2.1 พันล้านดอลลาร์ของ SoftBank ที่ลงทุนใน Cruise ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนด้านรถยนต์ไร้คนขับ

ย้อนไปปี 2018 SoftBank ได้เข้าลงทุนใน Cruise ด้วยมูลค่า 900 ล้านดอลลาร์ และมีแผนจะลงทุนเพิ่มอีก 1,350 ล้านดอลลาร์ เมื่อ Cruise สามารถให้บริการรถแท็กซี่ไร้คนขับ ต่อมา Cruise ได้ทดสอบให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับและยื่นขอใบอนุญาต และในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Cruise เผยว่า SoftBank จะลงทุนเพิ่ม 1,350 ล้านดอลลาร์ ตามแผนที่เคยประกาศไว้

แต่เนื่องจาก SoftBank มีปัญหาเรื่องหนี้สิ้น จึงได้เริ่มทยอยขายหุ้นที่เคยลงทุนในบริษัท Alibaba และ T-Mobile รวมถึงตัดสินใจขาย ARM ให้กับ Nvidia ในปี 2020 แต่ดีลดังกล่าวไม่สำเร็จ ทำให้ GM ได้ซื้อหุ้น Cruise มูลค่า 2.1 พันล้านดอลลาร์จาก Softbank พร้อมกับจะลงทุนในการลงทุนอีก 1.35 พันล้านดอลลาร์ แทน SoftBank ที่เคยประกาศแผนไว้

ทั้งนี้ GM ก็เป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุนใน Cruise อยู่แล้ว และนอกจากนี้ยังมี Microsoft, Walmart และ Honda ที่ร่วมลงทุนด้วย ซึ่งการซื้อหุ้นของ SoftBank ทำให้ GM มีสัดส่วนผู้ถือหุ้น 80% สามารถบริหารจัดการ Cruise ในการพัฒนาระบบขับขี่อัตโนมัติได้อย่างเต็มที่ และอาจเพิ่มมูลค่าบริษัทด้วยการเสนอขายหุ้น IPO ในอนาคต

Cruise ทำให้รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตนเองกลายเป็นจริงและเป็นผู้นำในเส้นทางสู่การแชร์รถอัตโนมัติและการส่งมอบในเชิงพาณิชย์ ซึ่งสร้างมูลค่าที่สำคัญสำหรับทั้งผู้ถือหุ้นของ GM และผู้ถือหุ้นส่วนน้อยของ Cruise” GM กล่าวในแถลงการณ์

ย้อนไปเมื่อปลายปีที่แล้ว GM ได้ประกาศแผนการที่จะเพิ่มการลงทุนในเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าและยานยนต์อัตโนมัติอีกประมาณ 7 พันล้านดอลลาร์ รวมเป็นเงินลงทุนทั้งสิ้นกว่า 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์จนถึงปี 2025 โดย Mary Barra หัวหน้า GM กล่าวว่า เป้าหมายของ GM ก็คือ “การมีโลกที่ไม่มีการชน ไม่มีการปล่อยมลพิษ และความแออัดเป็นศูนย์”

Source

]]>
1378239
‘เสียวหมี่’ ทุ่มเงิน 78 ล้านเหรียญฯ ซื้อบริษัท ‘ขับขี่อัตโนมัติ’ ส่งสัญญาณลุย ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ เต็มตัว https://positioningmag.com/1348715 Thu, 26 Aug 2021 06:50:41 +0000 https://positioningmag.com/?p=1348715 เสียวหมี่ (Xiaomi) ยักษ์ใหญ่ด้านอิเล็กทรอนิกส์ของจีนที่เพิ่งขึ้นเบอร์ 2 ในตลาดสมาร์ทโฟนโลกมาหมาด ๆ ล่าสุด ได้เข้าซื้อกิจการบริษัทสตาร์ทอัพด้านการขับรถอัตโนมัติ ส่งสัญญาณว่าบริษัทเตรียมลงเข้าแข่งขันในตลาดยานยนต์ที่กำลังมีการแข่งขันสูง พร้อมกับพยายามสร้างรายได้ที่หลากหลายให้กับธุรกิจนอกเหนือจากสมาร์ทโฟน

ย้อนไปเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เสียวหมี่ ได้ประกาศแผนการที่จะเปิดตัวธุรกิจ รถยนต์ไฟฟ้า และเตรียมเงินลงทุน 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยล่าสุด เสียวหมี่ประกาศว่าได้ซื้อบริษัทสตาร์ทอัพ Deepmotion ด้วยมูลค่าประมาณ 77.37 ล้านดอลลาร์ เพื่อ ”เพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางเทคโนโลยี” ของธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า

“การเข้าซื้อกิจการสามารถช่วยนำคุณสมบัติการขับขี่อัตโนมัติมาสู่รถยนต์ที่เสียวหมี่จะผลิตขึ้นในที่สุด ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่พัฒนาโดยผู้ผลิตรถยนต์หลายรายสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ายุคหน้า”

รอลุ้น! Xiaomi เตรียมเปิดตัว ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ โดยใช้โรงงานผลิตของ Great Wall Motor

ทั้งนี้ ไม่ใช่แค่เสียวหมี่ที่กำลังพยายามเข้ามาในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าและการขับขี่แบบติโนมัติ แต่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อีกหลายรายในจีนก็พยายามจะรุกตลาดดังกล่าวมากขึ้นเช่นกัน อาทิ Baidu, Huawei, Alibaba และ Didi

ร้าน Xiaomi ในเมืองนานจิง มณฑลเจียงซู (photo: CookieWei / Shutterstock.com)

ทั้งนี้ บริษัทประกาศการเข้าซื้อกิจการ Deepmotion หลังจากรายงานผลประกอบการในไตรมาส 2 โดยรายได้เติบโตขึ้น 64% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวของปี 2020 คิดเป็น 87.8 พันล้านหยวน ขณะที่มีกำไร 6.3 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 87.4% โดยเสียวหมี่ระบุว่ารายได้รวมและกำไรสุทธิที่แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสนี้

อย่างไรก็ตาม สมาร์ทโฟนยังคงเป็นสัดส่วนหลัก คิดเป็น 67.3% ของรายได้ทั้งหมด โดยบริษัทพยายามลดการพึ่งพาโทรศัพท์มือถือด้วยการผลักดันไปยังอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอื่น ๆ และบริษัทหวังว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นแหล่งรายได้ใหม่

Source

]]>
1348715
Volkswagen เริ่มทดสอบรถตู้ไฟฟ้า ‘ไร้คนขับ’ บนถนนจริงในเยอรมนี ก่อนใช้เชิงพาณิชย์ ปี 2025 https://positioningmag.com/1332044 Thu, 13 May 2021 10:14:03 +0000 https://positioningmag.com/?p=1332044 ตลาดยานยนต์ไร้คนขับเเข่งขันกันอย่างดุเดือด หลายบริษัททยอยเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ๆ พร้อมทดสอบใช้งานบนถนนจริง ชี้ให้เห็นถึงเทรนด์การใช้รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่กำลังจะมาถึงในอนาคตอันใกล้

ผู้ผลิตรถยนต์เจ้าใหญ่สัญชาติเยอรมันอย่าง Volkswagen ไม่พลาดจับโอกาสนี้ เตรียมการจะนำ ‘ID.Buzz’ รถตู้ไฟฟ้าไร้คนขับ สไตล์ย้อนยุค ออกมาลองวิ่งบนท้องถนนในเมืองมิวนิกของเยอรมนี ช่วงฤดูร้อนนี้ ก่อนจะออกสู่ตลาดเเละเปิดให้บริการขนส่งเชิงพาณิชย์ในปี 2025

สำหรับ ‘ID.Buzz’ เป็นเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยตนเองที่พัฒนาโดยArgo AI’ สตาร์ทอัพดาวรุ่งจากสหรัฐฯ ซึ่งได้รับเงินลงทุนจากบิ๊กผู้ผลิตรถยนต์อย่าง Ford และ Volkswagen ที่ประกาศจับมือเป็นพันธมิตรระดับโลกกันไปเมื่อปี 2019

โดยคาดว่ารถตู้ Volkswagen รุ่น ID.Buzz นี้ จะเป็นยานยานต์ไร้คนขับระดับที่ 4’ คือ ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องควบคุมเอง เเต่ยานพาหนะจะทำงานได้เฉพาะในบริเวณที่กำหนดทางภูมิศาสตร์ หรือเส้นทางที่กำหนดไว้เท่านั้น ต่างจากระดับที่ 5’ ซึ่งจะเป็นระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเเบบเต็มรูปแบบ ที่สามารถวิ่งได้อย่างไม่มีเงื่อนไข

ปัจจุบันเทคโนโลยี driver-assist ที่รู้จักกันดีอย่าง Super Cruise ของค่าย General Motors หรือ Autopilot ของ Tesla ต่างอยู่ในระดับที่ 2’ เพราะยังต้องมีการควบคุมดูแลจากผู้ขับขี่อย่างต่อเนื่องโดยใช้กล้องเซ็นเซอร์และเรดาร์ในตัวเพื่อขับเคลื่อนยานพาหนะบางเบรนด์มีการใช้เเผนที่ความละเอียดสูงและเทคโนโลยีอื่นๆ ร่วมด้วย

ตอนนี้ Argo AI กำลังทดสอบเทคโนโลยีขับขี่ด้วยตนเองใน 6 เมืองของสหรัฐฯ โดยใช้รถยนต์เเบรนด์ Ford เเละกำลังอยู่ในช่วงระดมทุนเพิ่มเติมเพื่อเตรียมจะยื่น IPO เสนอขายหุ้นต่อสาธารณะ หรืออาจจะใช้วิธีการ SPAC ก็ได้

อุตสาหกรรมรถยนต์ไร้คนขับ เริ่มจับมือพัฒนาร่วมกันในช่วงปีที่ผ่านมา หลายบริษัทถูกซื้อกิจการ หรือควบรวมกับบริษัทอื่น เนื่องจากเป็นนวัตกรรมที่มีต้นทุนสูง เเละถูกคาดหวังว่าจะสร้างรายได้ในระยะยาว พร้อมกับความคาดหวังจากผู้บริโภคที่ต้องการนั่งรถร่วมกันเเบบปลอดภัย สะดวกสบายและเชื่อถือได้

เส้นทางยังอีกยาวไกลจนกว่าเทคโนโลยีขั้นสูงนี้ จะกลายเป็นตลาดที่เติบโตอย่างมหาศาล” Christian Senger ผู้บริหารระดับสูงของ Volkswagen กล่าว

 

 

]]>
1332044
‘Baidu’ ให้บริการเเท็กซี่ไร้คนขับ เเบบ ‘ชำระเงิน’ ในปักกิ่งเเล้ว เตรียมขยายไปเมืองอื่นในจีน https://positioningmag.com/1330265 Sun, 02 May 2021 04:58:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1330265 บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง ‘Baidu’ เปิดให้บริการ ‘Apollo Robotaxi’ เเท็กซี่ไร้คนขับเเบบชำระเงิน เป็นครั้งเเรกในกรุงปักกิ่ง ตั้งเเต่วันนี้ (2 ..) เป็นต้นไป

Baidu ได้ทำการทดสอบการขับขี่อัตโนมัติบนถนนสาธารณะเเละให้ลองใช้บริการฟรี ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา หลังก่อตั้งหน่วยงาน ‘Apollo’ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์อัจฉริยะเเละแผนที่ความละเอียดสูง ขึ้นมาในปี 2017

Photo : Xinhua

สำหรับ Apollo Robotaxi บริการแท็กซี่ไร้คนขับนี้ จะเริ่มให้บริการในโซน Shougang Park ทางตะวันตกของเกรุงปักกิ่ง โดยผู้ใช้สามารถเรียกใช้บริการและชำระเงินได้ผ่านแอปพลิเคชัน Apollo Go ซึ่งจะมีค่าบริการ 30 หยวน (ราว 145 บาท) ต่อการโดยสาร 1 เที่ยว

ผู้บริหาร Baidu ระบุว่า บริษัทจะทยอยเปิดบริการแท็กซี่ไร้คนขับเชิงพาณิชย์ตามเมืองต่างๆ ในจีนต่อไปในอนาคต

เรียกใช้บริการ Apollo Robotaxi ผ่านแอปพลิเคชั่น Apollo Go (Photo : Baidu)

เทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยตัวเองกำลังได้รับความสนใจอย่างมากในจีนเเละมีการเเข่งขันสูงขึ้นเรื่อยๆ

โดย ‘Jidu Auto’ บริษัทพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นการร่วมทุนของ Baidu และ Geely ผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ของจีน มีแผนที่จะทุ่มเงินกว่า 5 หมื่นล้านหยวน เพื่อมุ่งผลิตยานยนต์อัจฉริยะในช่วง 5 ปีข้างหน้า

ขณะที่คู่เเข่งรายสำคัญอย่าง ‘AutoX’ ที่ได้รับการสนับสนุนจากบิ๊กอีคอมเมิร์ซ Alibaba ได้เริ่มให้บริการรถโดยสารไร้คนขับแบบชำระเงินที่เมืองเซินเจิ้นเรียบร้อยแล้ว

ส่วน WeRide สตาร์ทอัพดาวรุ่งผู้พัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของจีน ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Nissan ก็กำลังทดสอบรถยนต์ไร้คนขับในจีนเช่นกัน

 

ที่มา : Reuters 

]]>
1330265
Walmart ทุ่มลงทุนใน ‘Cruise’ ผู้ผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ขยายเครือข่ายเดลิเวอรี่ ‘ไร้คนขับ’ https://positioningmag.com/1328076 Sun, 18 Apr 2021 10:20:11 +0000 https://positioningmag.com/?p=1328076 หลังจากที่ ‘Walmart’ ห้างค้าปลีกรายใหญ่ของโลก ร่วมมือกับ ‘Cruise’ นำรถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับมาส่งสินค้าอุปโภคบริโภคเเบบเดลิเวอรี่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา

เมื่อเห็นศักยภาพที่จะพัฒนาต่อ Walmart จึงประกาศเข้าลงทุนใน Cruise บริษัทรถยนต์ไร้คนขับในเครือ General Motors (GM) ที่ได้รับเงินทุนจาก Softbank , Honda  เเละบิ๊กเทคฯ อย่าง ‘Microsoft’ ร่วมลงขันกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.2 หมื่นล้านบาท)

เเม้ดีลของ Walmart เเละ Cruise ครั้งนี้จะไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเงินลงทุนเเน่ชัด เเต่ก็มีการประเมินว่าน่าจะไม่ต่ำกว่า 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.3 หมื่นล้านบาท) เนื่องจาก Cruise ระบุยอดระดมทุนครั้งใหม่ว่าอยู่ที่ราว 2.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (เพิ่มจากตัวเลขเดิมที่ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

John Furner ซีอีโอของ Walmart กล่าวว่า การลงทุนครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก เเสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทที่จะนำประโยชน์ของรถยนต์ไร้คนขับมาให้บริการลูกค้าในธุรกิจค้าปลีก เเละรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานกับพันธมิตรอย่าง GM, Honda และ Microsoft เพื่อบุกเบิกเทคโนโลยีใหม่นี้

ที่ผ่านมา Walmart เป็นพาร์ตเนอร์กับผู้พัฒนารถยนต์ไร้คนขับหลายบริษัท อย่างเช่น Ford, Nuro เเละ Waymo ของ Google เป็นต้น

โฆษกของ Walmart ย้ำว่า จะยังคงยังคงทำงานร่วมกับบริษัทรถยนต์รายอื่น ต่อไป แม้ว่าจะลงทุนใน Cruise เเล้วก็ตาม

โดยล่าสุดมูลค่าบริษัทของ Cruise อยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นหนึ่งในตัวท็อปของวงการรถยนต์ไร้คนขับที่กำลังถูกจับตามอง

“รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตนเอง จะทำให้การขนส่งปลอดภัย สะอาดและเข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับทุกคน” Dan Ammann ซีอีโอของ Cruise ระบุ

ด้าน Amazon คู่แข่งรายใหญ่ของ Walmart เพิ่งเข้าซื้อ Zoox บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไร้คนขับ เมื่อปีที่แล้วและได้ตั้งบริษัทลูกเพื่อพัฒนาเเบรนด์ตัวเองขึ้นอย่าง Aurora Amazon พร้อมทดสอบใช้หุ่นยนต์ขนาดเล็กเพื่อจัดส่งพัสดุบนทางเท้า

การผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติในเชิงพาณิชย์เป็นเรื่องที่ท้าทายมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ บางบริษัทต้องล้มเลิกไป เเต่ Mary Barra ซีอีโอของ GM กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า บริษัทมั่นใจว่า Cruise จะเปิดตัวและดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้เร็วกว่าที่หลายคนคิด

 

ที่มา : CNBC , CNN

]]> 1328076 รถยนต์อัจฉริยะ ‘Apple Car’ ใกล้มาเเล้ว จับตาดีล Hyundai-KIA อาจเริ่มผลิตภายใน 3 ปี https://positioningmag.com/1317938 Thu, 04 Feb 2021 07:44:48 +0000 https://positioningmag.com/?p=1317938 หลังมีข่าวลือมาหลายปีว่า เจ้าเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนอย่าง ‘Apple’ จะกระโจนเข้าสู่วงการอุตสาหกรรมยานยนต์ มาวันนี้เริ่มเห็นความเป็นไปได้มากขึ้นเรื่อยๆ หลังโปรเจกต์พัฒนารถยนต์ไฟฟ้า ‘Apple Car’ ใกล้จะบรรลุข้อตกลงกับ Hyundai-KIA เเละอาจเริ่มผลิตได้ในอีก 3 ปีนี้ เเต่ในที่สุด  Hyundai ก็ออกมาปฏิเสธ

CNBC รายงานโดยอ้างเเหล่งข่าววงในถึงความคืบหน้าของ ‘Apple Car’ รถยนต์สุดล้ำที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาว่า Apple ใกล้จะสรุปข้อตกลงกับ Hyundai Motors ผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ของเกาหลีใต้

การผลิตรถยนต์ดังกล่าว อาจมีขึ้นในโรงงานของ KIA หนึ่งในบริษัทลูกของ Hyundai ที่เมือง West Point ในรัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา มีรายงานว่า ‘Apple Car’ จะเริ่้มผลิตได้ในปี 2024 หรืออาจจะเร็วกว่านั้น โดยหุ้นของ Apple เพิ่มขึ้นมากกว่า 2% หลังจากกระเเสข่าวนี้เผยเเพร่ออกไป

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวยังไม่ยืนยันว่าในท้ายที่สุดเเล้ว Apple อาจตัดสินใจเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น หรือพัฒนาแยกกันควบคู่ไปกับการทำงานร่วมกับ  Hyundai ก็ได้

โฆษกของ Apple และ Hyundai-Kia ต่างปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อกระเเสข่าวนี้ ซึ่งหากข้อตกลงนี้เกิดขึ้น Hyundai-Kia จะเป็นผู้ผลิตรถยนต์เกาหลีใต้รายแรกที่ได้ทำข้อตกลงกับ Apple เเละอาจมีการเซ็นสัญญามูลค่า 3,600 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ 

แหล่งข่าวของ CNBC ย้ำว่า Apple ต้องการสร้าง Apple Car รถยนต์ไฟฟ้าที่มีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติในอเมริกาเหนือ โดยมีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่เปิดกว้าง ยอมอนุญาตให้ Apple เข้ามาควบคุมกระบวนการผลิตทั้งระบบซอฟต์แวร์ฮาร์ดแวร์และแบตเตอรี่

ดังนั้น Apple Car จะไม่ใช่รถของ Kia ที่มีซอฟต์แวร์ของ Apple แต่จะเป็นรถของ Apple ที่มีโรงงานช่วยผลิตให้เท่านั้น

โมเดลรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ Ioniq ของ Hyundai ในรุ่น Ioniq 5 CUV , Ioniq 6 sedan , Ioniq 7 SUV.

สำหรับ Apple การตัดสินใจสร้างรถยนต์ของตัวเองขึ้นมา นับว่าเป็นโอกาสครั้งใหญ่ที่จะเจาะตลาดยานยนต์โลกที่มีมูลค่าสูง 10 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

Katie Huberty นักวิเคราะห์ของ Morgan Stanley ให้ความเห็นว่า ปัจจุบันตลาดสมาร์ทโฟนมีมูลค่าราว 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเเบรนด์ของ Apple เป็นเจ้าใหญ่ที่มีส่วนแบ่งอยู่ประมาณ 1 ใน 3 ของตลาดนี้

เเต่หาก Apple เข้าตีตลาดตลาดรถยนต์ ที่มีมูลค่า 10 ล้านล้านดอลลาร์ได้สำเร็จเพียง 2% ก็จะสามารถขยายธุรกิจให้มีขนาดใหญ่เท่ากับธุรกิจ iPhone ได้เท่าตัวเลยทีเดียว

ด้านประธาน Hyundai-Kia มองว่า Apple Car จะเป็นอนาคตของบริษัท เพราะจะเป็นรถยนต์ที่มีระบบอัตโนมัติแบบสมบูรณ์ ซึ่งจะทำให้บริษัทพัฒนารถขับเคลื่อนอัตโนมัติของตัวเองได้เร็วขึ้น

โดย Hyundai-Kia จะเร่งพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติเเละรถยนต์ไฟฟ้าของตนเอง ควบคู่กัน’ ไปเนื่องจากปัจจุบัน Hyundai ก็ร่วมทุนกับ Aptiv เพื่อพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์อัตโนมัติและหุ่นยนต์อยู่แล้วรวมถึงโอกาสการขยายตลาดในอเมริกาเหนือด้วย

ต้องจับตาดูว่า ‘Apple Car’ จะเป็นไปในทิศทางใด…

 

ที่มา : CNBC , Engadget, businessinsider

]]>
1317938
‘Microsoft’ ทุ่มเงิน 2 พันล้านดอลลาร์ ลงทุนในบริษัทรถยนต์ไร้คนขับในเครือ ‘GM’ https://positioningmag.com/1315420 Wed, 20 Jan 2021 12:13:53 +0000 https://positioningmag.com/?p=1315420 ‘Cruise’ บริษัทรถยนต์ไร้คนขับซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ ‘General Motors (GM)’ ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา มีประวัติอันยาวนานกว่า 112 ปี ที่ปัจจุบันมีแบรนด์ในเครือ อย่าง Chevrolet, Buick, Cadillac, GMC และ Holden กำลังมาแรงสุด ๆ เพราะ ‘Microsoft’ ได้ทุ่มเงินถึง 2 พันล้านดอลลาร์ร่วมลงทุน

ช่วงนี้เทรนด์รถไฟฟ้าและรถยนต์ไร้คนขับกำลังมาแรง ซึ่ง ‘Cruise’ ก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยที่ผ่านมาได้ ‘Walmart’ ได้เปิดโครงการนำร่องร่วมกับ Cruise โดยนำรถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับมาส่งสินค้าอุปโภคบริโภคเดลิเวอรี่สินค้าอุปโภคบริโภค นอกจากนี้ยังได้เงินลงทุนจาก Softbank และ Honda อีก ล่าสุด ‘Microsoft’ ก็ได้ร่วมลงทุนรวมมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือกว่า 6 หมื่นล้านบาท

Cruise รถยนต์ไร้คนขับ มีการทดสอบส่งเดลิเวอรี่อาหารในซานฟรานซิสโกไปแล้ว 20,000 ครั้ง (Photo : Cruise)

สำหรับการลงทุนดังกล่าวถือว่าเป็นครั้งแรกที่ Microsoft ลงทุนในบริษัทรถยนต์ไร้คนขับ โดยระบุว่าเป็นการสร้างพันธมิตรระยะยาว และ Cruise จะต้องใช้ ‘Azure’ ระบบ Cloud Computing ของ Microsoft เพื่อช่วยพัฒนาระบบและบริการ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยว่า Microsoft นั้นจะมีสัดส่วนการถือหุ้นใน Cruise เท่าไหร่ แต่ Cruise ยืนยันว่า General Motors จะรักษาสัดส่วนการถือหุ้นใหญ่

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่ Microsoft ที่เริ่มขยับเข้ามาในอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่อย่าง Apple ก็ได้เริ่มแผนการใหม่เพื่อสร้างรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตนเองไฟฟ้าของตัวเอง ส่วน Google ก็มี ‘Waymo’ ซึ่งเป็นคู่แข่งของ Cruise

Source

]]>
1315420
เเคลิฟอร์เนีย อนุญาตให้ Nuro เปิดบริการ ‘เดลิเวอรี่ไร้คนขับ’ วิ่งส่งสินค้า-อาหาร บนถนนจริง https://positioningmag.com/1312566 Wed, 30 Dec 2020 09:22:16 +0000 https://positioningmag.com/?p=1312566 ขยับไปอีกขั้นสำหรับเทคโนโลยีเดลิเวอรี่ไร้คนขับหลังรัฐเเคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา อนุญาตให้ ‘Nuro’ ผู้พัฒนายานพาหนะแบบไร้คนขับ เปิดบริการเชิงพาณิชย์ อย่างการวิ่งส่งสินค้าหรืออาหาร บนถนนจริงๆ ได้เเล้ว

Nuro มีเเผนเริ่มเปิดให้บริการกับลูกค้าทั่วไปครั้งเเรกในช่วงต้นปีหน้านี้ โดยจะใช้ยานพาหนะไร้คนขับรุ่น ‘R2’ ที่มีลักษณะคล้ายๆ รถยนต์ แต่มีขนาดเล็กกว่ามีช่องเก็บสินค้าเเบบควบคุมอุณหภูมิ 2 ช่อง ขับเคลื่อนด้วยตัวเองโดยเทคโนโลยีเรดาร์ พร้อมกล้องตรวจจับความร้อน และกล้อง 360 องศา

เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน เจ้า ‘R2’ จะถูกจำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 35 ไมล์ต่อชั่วโมง (56 กม./ชม.) ในวันที่สภาพอากาศที่ปกติ

Nuro กำลังเป็นสตาร์ทอัพดาวรุ่งในวงการยานยนต์ไร้คนขับ ก่อตั้งขึ้นโดย 2 อดีตวิศวกรของ Google เมื่อปี 2016 ได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก SoftBank โทรคมนาคมรายใหญ่จากญี่ปุ่น

ก่อนหน้านี้ Nuro ได้ร่วมงานกับพาร์ตเนอร์ในหลากหลายเเวดวงธุรกิจ โดยมีการนำยานยนต์ไร้คนขับไปทดสอบให้บริการรูปแบบต่างๆ เช่น เริ่มทดสอบส่งพิซซ่ากับ Domino ในช่วงกลางปีที่แล้ว จากนั้นได้ทดสอบส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ร่วมกับห้างค้าปลีกรายใหญ่อย่าง Walmart และ Kroger และเคยทดสอบส่งสินค้ากลุ่มยาร่วมกับ CVS ด้วย

Nuro ระบุในเเถลงการณ์ว่า การพัฒนา Driverless Delivery หรือการส่งเดลิเวอรี่แบบไร้คนขับนั้น จะเป็นประโยชน์กับชีวิตประจำวันของผู้คนและชุมชน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตในแคลิฟอร์เนีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2021 ที่ยังคงมีการเเพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งการให้บริการของ Nuro จะช่วยลดการสัมผัสของคนในชุมชนได้เป็นอย่างดี ผู้สูงอายุเเละคนในครอบครัว สามารถเลือกซื้อสินค้าได้โดยไม่ต้องออกจากบ้าน

ด้านหน่วยงานด้านขนส่งของรัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า การให้อนุญาตครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยียานพาหนะไร้คนขับในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งทางการจะเฝ้าระวังเรื่องความปลอดภัยอย่างใกล้ชิดต่อไป

 

ที่มา : BBC , Marketwatch

 

]]>
1312566
ไฟเขียว Baidu เทสต์ “รถยนต์ไร้คนขับ” ในปักกิ่ง โดยไม่ต้องมีมนุษย์ควบคุมในห้องโดยสาร https://positioningmag.com/1309605 Tue, 08 Dec 2020 11:45:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1309605 โครงการ Apollo “รถยนต์ไร้คนขับ” ของบริษัท Baidu ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีจีน ได้ไฟเขียวจากทางการให้ทดลองใช้รถ 5 คันใจกลางเมืองปักกิ่ง โดยไม่ต้องมีคนขับที่เป็นมนุษย์ในห้องโดยสาร แต่ให้ควบคุมระยะไกล เป็นอีกหนึ่งความคืบหน้าในศึกรถยนต์ไร้คนขับที่ทั่วโลกกำลังแข่งขันกันพัฒนา

รถยนต์ไร้คนขับ หรือ เอดี (AD: Autonomous Driving Vehicles) จากโครงการ Apollo ของ Baidu ได้รับใบอนุญาตจากทางการจีนทั้งหมด 5 ใบ เพื่อให้เริ่มเทสต์รถเอดี 5 คันในบริเวณจำกัดของกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงประเทศจีน โดยไม่ต้องมีมนุษย์ควบคุมในห้องโดยสาร

ใบอนุญาตที่ให้กับ Apollo นี้เกิดขึ้นหลังจากเทศบาลเมืองปักกิ่งปลดล็อกกฎหมายเมื่อเดือนก่อน ให้การทดสอบรถยนต์ไร้คนขับสามารถกระทำได้โดยไม่ต้องมีมนุษย์ควบคุมในห้องโดยสาร แต่ให้ใช้การควบคุมระยะไกลเพื่อความปลอดภัยแทน

กรณีของ Apollo จะมีการทดสอบโดยใช้คนขับที่เป็นมนุษย์ 5 คนควบคุมรถเอดี 1 คนต่อ 1 คัน ผ่านเครือข่ายสัญญาณ 5G และจะต้องซื้อประกันให้รถยนต์คันละ 5 ล้านหยวนหากขับบนถนนปกติ และ 10 ล้านหยวนหากจะนำรถขึ้นทางด่วน

กรุงปักกิ่งนั้นเป็นหนึ่งในเมืองชั้นนำของจีนที่วางเครือข่ายสัญญาณ 5G ยุคใหม่ สามารถรองรับการส่งสัญญาณได้มากกว่าและลดการหน่วงของการส่งผ่านข้อมูล (latency) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนารถเอดี

โรโบแท็กซี่ของ Baidu

การแข่งขันพัฒนา “รถยนต์ไร้คนขับ” เป็นศึกการพัฒนาระดับโลก ทั้งจีน สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่นต่างกำลังพัฒนากันอย่างเต็มความสามารถ และเป็นโครงการพัฒนาที่ท้าทายมาก เพราะในสถานการณ์จริงนั้น รถเอดีจะต้องเจอความซับซ้อนของการจราจรที่แสนวุ่นวาย

สำหรับ Apollo นั้นเคยมีการทดสอบในฐานะ “โรโบแท็กซี่” หรือ แท็กซี่ไร้คนขับ มาแล้วในเขตชานเมืองปักกิ่ง 3 จุด เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และก่อนหน้านั้นเคยบริการอยู่ในเมืองฉางซา มณฑลหูหนาน และเมืองชางโจว มณฑลเหอเป่ย ด้วยการลงทุนพัฒนาที่สูงทั้งค่าเทคโนโลยี Lidar ติดตั้งเซ็นเซอร์ และระบบคอมพิวเตอร์ในรถ เพราะฉะนั้นการนำมาบริการเป็นแท็กซี่ขณะนี้จึงยังไม่มีกำไร

อย่างไรก็ตาม หลี่ เจิ้นหยู หัวหน้าทีม Apollo เคยให้ข่าวก่อนหน้านี้ว่า บริษัทต้องการจะพัฒนาอุตสาหกรรมในระยะยาว และจะส่งต่อเทคโนโลยีเหล่านี้ให้กับพันธมิตรในอุตสาหกรรมรถยนต์ดั้งเดิมต่อไป

Source

]]>
1309605
Walmart เตรียมทดสอบระบบใช้ “รถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับ” ส่งเดลิเวอรี่สินค้า https://positioningmag.com/1305681 Thu, 12 Nov 2020 07:20:34 +0000 https://positioningmag.com/?p=1305681 Walmart ยังคงเดินหน้าทดลองการใช้นวัตกรรมในธุรกิจรีเทล ล่าสุดเปิดโครงการนำร่องร่วมกับ Cruise ในเครือ General Motors (GM) นำรถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนอัตโนมัติไร้คนขับ มาเป็นเครื่องมือเดลิเวอรี่สินค้าอุปโภคบริโภค โดยจะทดสอบในรัฐแอริโซนา

“ทอม วาร์ด” รองประธานอาวุโสด้านผลิตภัณฑ์ลูกค้า Walmart ประกาศในบล็อกโพสต์ของเขาว่า โครงการนำร่องของ Walmart กับ Cruise จะเริ่มต้นในช่วงต้นปี 2021 บริเวณพื้นที่เมืองสก็อตส์เดล รัฐแอริโซนา ทางตะวันตกของสหรัฐฯ

โดยรถยนต์ที่ใช้ในโครงการนี้จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า และจะชาร์จไฟจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนเท่านั้นด้วย เพื่อให้ตรงกับนโยบายบริษัทซึ่งมุ่งสู่การลดการปล่อยคาร์บอน

คอนเซ็ปต์ของบริการนี้คือต้องการให้ลูกค้าสามารถสั่งสินค้าจากร้านในท้องถิ่น และรถยนต์ของ Walmart จะนำสินค้าไปส่งให้เอง โดยเป็นรถยนต์แบบไร้คนขับเพื่อลดการสัมผัสของคนกับสินค้า “เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงมีศักยภาพในการประหยัดเงินและเวลาให้กับลูกค้า แต่ยังมีส่วนช่วยสิ่งแวดล้อมโลกด้วย เทคโนโลยีเช่นนี้เป็นสิ่งที่เราต้องการศึกษาเพิ่มเติม” วาร์ดกล่าว

Cruise รถยนต์ไร้คนขับ มีการทดสอบส่งเดลิเวอรี่อาหารในซานฟรานซิสโกไปแล้ว 20,000 ครั้ง (Photo : Cruise)

ขณะนี้ Walmart ยังไม่ประกาศว่าหน่วยรถยนต์ไร้คนขับในโครงการนี้จะมีทั้งหมดกี่คัน และลงทุนไปทั้งหมดเท่าไหร่แต่โครงการร่วมกับ Cruise ไม่ใช่โครงการแรกของ Walmart ก่อนหน้านี้ในปี 2018 บริษัทมีความร่วมมือกับ Waymo บริษัทในเครือเดียวกับ Google เพื่อใช้รถยนต์ไร้คนขับส่งของมาแล้ว (ในโครงการดังกล่าว บริษัทเลือกใช้รถตู้ขนาดเล็ก Pacifica และเป็นรถระบบไฮบริดที่ใช้ไฟฟ้าเป็นบางส่วน)

โรคระบาด COVID-19 ที่เกิดขึ้นในปีนี้เป็นตัวแปรสำคัญที่มีผลกับแผนของรถยนต์ไร้คนขับอย่าง Cruise และ Waymo จากเดิมที่มองว่าจะมุ่งเป้าเป็นแท็กซี่ขนส่งผู้โดยสาร กลับกลายมามีจุดแข็งในระบบเดลิเวอรี่และโลจิสติกส์แทน เพราะลูกค้าต้องการการขนส่งที่ถูกสัมผัสจากคนน้อยที่สุด

ยกตัวอย่างเช่น Waymo เริ่มมีให้บริการชื่อ “Via” ที่สามารถไปรับพัสดุจากร้านรับส่งพัสดุ UPS ได้ หรือบริษัทสตาร์ทอัพ Nuro สามารถระดมทุนได้สำเร็จเพื่อทำธุรกิจหุ่นยนต์เดลิเวอรี่อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ในอีกฟากโลกคือที่ประเทศจีน สำนักข่าวซินหัวเพิ่งมีรายงานว่า มีบริษัทกำลังทดลองใช้รถส่งอาหารเดลิเวอรี่แบบไร้คนขับ จำนวน 4 คัน ที่นิคมนวัตกรรมหูหลี่ เมืองเซี่ยเหมิน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน โดยรถดังกล่าวเป็นรถที่ออกแบบมาเพื่อขนส่งอาหารโดยเฉพาะ มีการติดตั้งระบบอุ่นร้อนภายใน และผู้สั่งเพียงสแกน QR CODE ชำระเงินก็รับอาหารออกจากรถได้ทันที

แต่อย่าเพิ่งตกใจไปว่าหุ่นยนต์หรือเทคโนโลยีจะมาแทนที่มนุษย์ได้แบบฉับพลัน เพราะอาจจะยังไม่ถึงจังหวะที่เหมาะสม Walmart เองเพิ่งจะตัดสินใจยกเลิกใช้ “หุ่นยนต์เช็กสต๊อก” ไปในเดือนนี้เอง หลังทดลองมา 3 ปีแล้วพบว่าต้นทุนการใช้มนุษย์ยังถูกกว่า (ในเวลานี้) และลูกค้ามีปฏิกิริยาทางลบเมื่อพบหุ่นยนต์เช็กสต๊อกบนชั้นวางสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ต

อย่างไรก็ตาม Walmart และอีกหลายธุรกิจรีเทลยักษ์ใหญ่ก็ยังไม่หยุดทดลองใช้สารพัดเทคโนโลยีที่จะทำให้ตนได้เปรียบในการแข่งขัน ดังนั้นต้องจับตาว่า “จังหวะ” ที่หุ่นยนต์จะมาแทนที่มนุษย์ได้ในแต่ละตำแหน่งจะเป็นเมื่อไหร่

Source

]]>
1305681