Goldman Sachs – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 03 Jan 2023 12:45:39 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 InnovestX จับมือ Goldman Sachs พัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุน ขยายฐานลูกค้าสถาบันต่างชาติ https://positioningmag.com/1414449 Tue, 03 Jan 2023 11:53:15 +0000 https://positioningmag.com/?p=1414449 บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ธุรกิจการเงินการลงทุนของ SCBX ร่วมกับโกลด์แมนแซคส์ (Goldman Sachs) สถาบันการเงินชั้นนำระดับโลก จับมือพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ ๆ ร่วมกันเพื่อรองรับโลกการลงทุนแห่งอนาคต พร้อมรุกตลาดการลงทุนในไทย

ความร่วมมือดังกล่าวของ 2 สถาบันการเงินนี้จะช่วยให้นักลงทุนไทยมีโอกาสเข้าถึงผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลายของ Goldman Sachs ในตลาดทุนทั่วโลก และคาดว่าจะทำให้ InnovestX สามารถขยายฐานลูกค้าในการซื้อขายหลักทรัพย์ในประเทศได้เพิ่มมากขึ้นทั้งลูกค้าสถาบันและลูกค้ารายย่อย

อารักษ์ สุธีวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด กล่าวว่า เราเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้านักลงทุนในการแสวงหาเครื่องมือการลงทุนที่หลากหลายจากตลาดทุนทั่วโลก จึงได้มองหาพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญ และเป็นที่ยอมรับในระดับโลกอย่าง Goldman Sachs ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการสร้างโอกาสทางการลงทุนให้กับนักลงทุนทั้งลูกค้าสถาบัน และลูกค้ารายย่อยในประเทศ

ขณะที่ Chris Chan Head of Global Markets Distribution for Southeast Asia at Goldman Sachs กล่าวว่า เรามองเห็นโอกาสจากการเติบโตของหลักทรัพย์และตราสารอนุพันธ์ในไทย และมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ InnovestX ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนระดับโลกให้กับนักลงทุน

ในช่วงที่ผ่านมาสถาบันการเงินไทยได้จับมือกับสถาบันการเงินต่างประเทศเพื่อเป็นพันธมิตรหลายราย เช่น บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด จับมือกับ Jefferies สถาบันการเงินจากสหรัฐฯ ในการเป็นพันธมิตร หรือ สถาบันการเงินไทยอีกรายอย่างธนาคารเกียรตินาคินภัทรนั้นเป็นพันธมิตรกับทาง Bank of America

การจับมือเป็นพันธมิตรกับสถาบันการเงินต่างประเทศของสถาบันการเงินไทย ทำให้นักลงทุนสถาบันจากต่างประเทศสามารถเข้าถึงตลาดทุนไทยได้มากขึ้น รวมถึงรายได้ของสถาบันการเงินไทยจากการเป็นผู้จัดจำหน่ายหุ้นช่วง IPO ให้กับกองทุนต่างประเทศ ส่งผลต่อรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น ขณะที่นักลงทุนไทยนั้นได้ผลิตภัณฑ์การเงินใหม่ๆ จากสถาบันการเงินต่างประเทศมากขึ้น

]]>
1414449
Goldman Sachs เตรียม “เลย์ออฟ” พนักงานอีกหลายพันคน หวั่นเศรษฐกิจปี 2023 แย่ลง https://positioningmag.com/1412863 Sat, 17 Dec 2022 04:18:43 +0000 https://positioningmag.com/?p=1412863 กระแสการปลดพนักงานยังไม่จบ ล่าสุด ‘Goldman Sachs’ เตรียม “เลย์ออฟ” พนักงานเพิ่มอีกหลายพันคน เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์เศรษฐกิจปีหน้าที่อาจจะย่ำแย่ลงมากกว่านี้

การเลย์ออฟครั้งนี้เป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่ทำให้เห็นว่าตลาดแรงงานของ Wall Street แหล่งธุรกิจการเงินของสหรัฐฯ กำลังเป็นขาลง รายได้ของกลุ่มวาณิชธนกิจตกต่ำลงมากในปีนี้เนื่องจากการควบรวมกิจการที่น้อยลง เป็นภาพมุมกลับของสถานการณ์ในปี 2021 ที่ธุรกิจธนาคารทำกำไรสูง

สำหรับ Goldman Sachs มีพนักงานทั้งหมด 49,100 คนเมื่อสิ้นไตรมาส 3/2022 โดยบริษัทมีการเพิ่มพนักงานเป็นจำนวนมากในระหว่างเกิดโรคระบาด อย่างไรก็ตาม แม้จะเลย์ออฟอีกหลายพันคนแต่จำนวนพนักงานก็จะยังเหลือมากกว่าที่เคยมีในช่วงสิ้นปี 2019 (ก่อนเกิดโรคระบาด) เพราะขณะนั้นบริษัทมีจำนวนพนักงาน 38,300 คน

จำนวนพนักงานที่จะถูกปลดนั้นยังอยู่ระหว่างพิจารณา โดยคาดว่ารายละเอียดชัดเจนจะออกมาในช่วงต้นปี 2023 แต่ก่อนหน้านี้มีรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าววงในว่า จำนวนพนักงานที่ถูกเลย์ออฟน่าจะอยู่ที่ราวๆ 4,000 คน

ขณะที่โบนัสสิ้นปีนี้ก็คาดว่าจะถูกตัดสูงมาก แหล่งข่าววงในกล่าวกับ Reuters ว่า เทียบกับปี 2021 นายธนาคารที่ทำผลงานได้ในระดับสูงในปีนั้นเคยได้รับโบนัสสูงกว่าปกติถึง 40-50% ปีนี้คงได้เห็นโบนัสตรงข้ามกับเมื่อปีที่แล้ว

ด้านราคาหุ้นของ Goldman ปีนี้ลดลงไปเกือบ 10% แล้ว แต่ก็ยังถือว่าดีกว่าค่าเฉลี่ยรวมของดัชนี S&P 500 ซึ่งลดลง 24% นับตั้งแต่ต้นปี

 

แผนกลูกค้ารายย่อยต้องดิ้นรน

ในแผนการเลย์ออฟครั้งนี้ คาดว่าส่วนหนึ่งจะกระทบพนักงานแผนก ‘Marcus’ ซึ่งเป็นธนาคารสำหรับลูกค้ารายย่อยของ Goldman เนื่องจากเห็นสัญญาณมาสักพักแล้วว่า วิสัยทัศน์การเข้าสู่ตลาดธนาคารเพื่อลูกค้ารายย่อยนั้นไม่สามารถทำกำไรได้ คาดกันว่า Marcus น่าจะถูกปลดพนักงานออกไปหลักหลายร้อยคน

แผนกลูกค้ารายย่อยนั้นเกิดจากวิสัยทัศน์ของ เดวิด โซโลมอน ซีอีโอบริษัท เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2018 เพื่อกระจายพอร์ตโฟลิโอธุรกิจให้หลากหลาย จากปัจจุบัน Goldman ทำรายได้หลัก 65% มาจากธุรกิจวาณิชธนกิจ

สัญญาณการปลดพนักงานของบริษัท Goldman นั้นเริ่มมาพักใหญ่แล้ว โดยเมื่อเดือนกันยายน 2022 บริษัทมีการเลย์ออฟพนักงานไป 500 คน และถ้าย้อนไปถึงเดือนกรกฎาคม 2022 บริษัทเคยเอ่ยถึงนโยบายการจ้างงานที่จะเริ่มชะลอการจ้างเพิ่ม เพื่อลดต้นทุนบริษัท

ไม่ใช่แค่ Goldman Sachs ที่ได้รับผลกระทบ ธนาคารที่เป็นสถาบันการเงินระดับโลก เช่น Morgan Stanley, Citigroup ต่างก็เริ่มปลดพนักงานในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา หลังจากสถานการณ์ภาคการเงินไม่สู้ดีนัก ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ความตึงเครียดของสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ตลอดจนอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูง ไม่ใช่สัญญาณที่ดีกับเศรษฐกิจโลก

Source

]]>
1412863
Goldman Sachs มองแนวโน้ม ‘จีน’ อาจใช้มาตรการคุมเข้มพรมแดน ‘ตลอดปี 2022’ https://positioningmag.com/1369329 Tue, 04 Jan 2022 09:44:52 +0000 https://positioningmag.com/?p=1369329 มองเเนวโน้มรัฐบาลจีนจะยังคงบังคับใช้มาตรการควบคุมพรมแดนอย่างเข้มงวดตลอดทั้งปี 2022’ เพื่อเตรียมเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาว และจัดกิจกรรมทางการเมืองต่าง ๆ

Goldman Sachs วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐฯ วิเคราะห์ว่า การที่วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทซิโนแวคของจีนนั้น สามารถป้องกันไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนได้เพียงเล็กน้อย มีแนวโน้มจะกดดันให้รัฐบาลจีน แก้ไขปัญหาด้วยกลยุทธ์ ‘Covid Zero’ คุมยอดผู้ป่วยรายใหม่ให้เป็นศูนย์ต่อไป

ประเทศจีน เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลก ที่ยังคงยึดมั่นในแนวทาง ‘Covid Zero’ ขณะที่อีกหลายประเทศเริ่มปรับนโยบายมาเป็นอยู่ร่วมกับโควิด

โดยมาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด อย่างเช่น กรณีล็อกดาวน์ในซีอาน นำไปสู่การหยุดชะงักของภาคการผลิต การเดินทางและการบริโภคที่ลดลง ทำให้เกิดแรงกดดันต่อเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากภาวะตกต่ำของตลาดที่อยู่อาศัยที่มีอยู่เเล้ว

นักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs ระบุว่า จีนจะยังคงใช้มาตรการกักตัวสำหรับนักเดินทางที่มาจากต่างประเทศอย่างเข้มงวดต่อไป เพื่อหลีกเลี่ยงการส่งผลกระทบต่อการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว ที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนหน้า

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมทางการเมืองครั้งใหญ่อย่างการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีนประจำปีในเดือนมี.. และการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 ในไตรมาสที่ 4 โดยคาดว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะยังคงรั้งตำแหน่งผู้นำต่อเป็นสมัยที่ 3 ในการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ที่จะจัดขึ้นทุกๆ 5 ปี

สำหรับประเทศอื่นๆ ในโซนเอเชียเเปซิฟิก เริ่มเปลี่ยนไปใช้นโยบายการใช้ชีวิตร่วมกับโควิดซึ่งอัตราเงินเฟ้อโดยรวมคาดว่าไม่น่าจะเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากระดับปัจจุบัน เนื่องจากธนาคารกลางขึ้นอัตราดอกเบี้ย นำโดยนิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ และ สิงคโปร์

ธนาคารกลางกลุ่มต่อไป ที่มีแนวโน้มจะขึ้นดอกเบี้ยมากที่สุดในความเห็นของเรา คือ อินเดีย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และไต้หวัน

ขณะที่ เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มขยายตัว 2.7% โดยได้รับแรงหนุนจากการผ่อนคลายทางการคลังและอุปสงค์ทั่วโลก โดยบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นกว่า 84% มองว่า เศรษฐกิจของประเทศจะกลับมาเติบโตได้ดีในปี 2022 จากเเรงหนุนการบริโภคที่ฟื้นตัว เเละความหวังว่าการระบาดของโควิด-19 จะบรรเทาลง

 

ที่มา : Bloomberg 

]]>
1369329
โควิด ‘เดลตา’ ทำการฟื้นตัว ‘เศรษฐกิจจีน’ สะดุด Goldman Sachs หั่นเป้าจีดีพี ปีนี้เหลือ 8.3% https://positioningmag.com/1345878 Mon, 09 Aug 2021 10:00:01 +0000 https://positioningmag.com/?p=1345878 Goldman Sachs วาณิชธนกิจรายใหญ่ ปรับลดเป้าจีดีพีจีนปีนี้เหลือ 8.6% หลังรัฐบาลต้องใช้มาตรการควบคุมโควิดสายพันธุ์เดลตาที่กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว

Bloomberg รายงานว่า นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs คาดการณ์ตัวเลขการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปี 2021 ของจีน จะลดลงเหลือ 8.3% จากคาดการณ์เดิมที่ 8.6% โดยตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่า รัฐบาลจีนจะสามารถควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ระลอกนี้ได้ภายใน 1 เดือน

โดยปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจจีน ในไตรมาส 3/2021 เหลือ 2.3% จากเดิม 5.8% เเละเพิ่มการคาดการณ์การเติบโตในไตรมาส 4/2021 เป็น 8.5% เนื่องจากประเมินว่าจะ ฟื้นตัวได้หลังจากผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด ประกอบกับนโยบายการเงินและการคลัง ที่จะได้รับการสนับสนุนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า รวมถึงการออกพันธบัตรรัฐบาลที่เร็วขึ้น และการลดอัตราส่วนสำรองขั้นต่ำอีกครั้ง

นอกจากนี้ ยอดส่งออกของจีนในเดือนก..ที่ผ่านมาที่ชะลอตัวลง’ ก็ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันต่อเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง โดยมีความเป็นไปได้ว่าตัวเลขจีดีพีจีน อาจชะลอตัวลงสู่ระดับ 6.3% และ 5% เมื่อเทียบรายปีในไตรมาส 3 เเละไตรมาส 4 ตามลำดับ เพราะการส่งออกและการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนแรงลง

Photo : Shutterstock

ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์จากอีกหลายสำนัก ต่างพากันปรับลดคาดการณ์จีดีพีของจีนลง เนื่องจากการแพร่ระบาดรอบใหม่จากสายพันธุ์เดลตากำลังส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว และการใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวจีนในช่วงวันหยุดยาวปีนี้

Nomura Holdings ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในไตรมาส 3/2021 เหลือ 5.1% จากเดิมที่ระดับ 6.4% และคาดว่าในไตรมาสสุดท้าย ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น จะขยายตัวเพียง 4.4% จากคาดการณ์เดิมที่ระดับ 5.3% โดยประเมินว่าเศรษฐกิจจีนตลอดปีนี้ จะอยู่ที่ 8.2% ลดลงจากระดับ 8.9% นอกจากนี้วิกฤตน้ำท่วมที่ผ่านมา ที่มีผลกระทบรุนเเรงกว่าที่คาด ก็มีส่วนทำให้จีดีพีในช่วงไตรมาส 3 ลดลงด้วย

ล่าสุด รัฐบาลจีนเพิ่งประกาศปิดสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง รวมถึงยกเลิกการจัดงานต่างๆ พร้อมยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมาก หลังมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่กระจายไปเกือบครึ่งหนึ่งของ 32 มณฑลในจีน ภายในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ เเละตอนนี้มีพื้นที่อย่างน้อย 43 เมือง ได้แนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางโดยไม่จำเป็น

 

ที่มา : Bloomberg (1) , (2)

]]>
1345878
Goldman Sachs ลดเป้าจีดีพีไทย เหลือ 1.4% ‘สายพันธุ์เดลตา’ ทำอ่วมทั้งอาเซียน เเถมฉีดวัคซีนช้า https://positioningmag.com/1342841 Fri, 16 Jul 2021 14:02:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1342841 Goldman Sachs วาณิชธนกิจรายใหญ่ ปรับลดคาดการณ์จีดีพีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศอาเซียน รวมถึงไทย หลังเจอวิกฤตโรคระบาดครั้งใหม่ จากสายพันธุ์เดลตายอดติดพุ่งเเต่ฉีดวัคซีนได้ช้า

การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา ทำให้ยอดผู้ป่วยในอินโดนีเซียมาเลเซียและไทย พุ่งทำสถิติสูงสุดในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา นำไปสู่การยกระดับมาตรการล็อกดาวน์เเละข้อจำกัดต่างๆ ที่เข้มงวดยิ่งขึ้น

เเนวโน้มที่ฟิลิปปินส์จะผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ในปีนี้ไม่น่าเป็นไปได้มากขึ้น

ไวรัสกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นใหม่เรื่อยๆ เเละกระจายได้อย่างอย่างรวดเร็ว พร้อมกับมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวด มีผล
กระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจอาเซียนในช่วงครึ่งหลังของปี ‘มากกว่าที่เคยประเมินไว้

โดย Goldman Sachs  ปรับลดจีดีพีเศรษฐกิจไทยในปี 2021 ลงสู่ระดับ 1.4% จากคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2.1% พร้อมกับปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจอินโดนีเซีย เป็น 3.4% จากระดับ 5%, มาเลเซียลงสู่ระดับ 4.9% จากระดับ 6.2% , ฟิลิปปินส์ลงสู่ระดับ 4.4% จากระดับ 5.8% เเละเศรษฐกิจสิงคโปร์ลงสู่ระดับ 6.8% จากเดิม 7.1%

ในอาเซียน จะมีเพียงสิงคโปร์และมาเลเซียเท่านั้น ที่จะสามารถผ่อนคลายมาตรการและฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ในปีนี้ ส่วนประเทศอื่นๆ ที่เหลือ รวมถึงไทย ต้องรอถึงครึ่งแรกของปี 2022”

Photo : Shutterstock

โครงสร้างเศรษฐกิจของเเต่ละประเทศ เป็นส่วนสำคัญที่เชื่อมโยงกับการฟื้นตัว โดยเศรษฐกิจของสิงคโปร์และมาเลเซีย ที่อิงกับการค้าระหว่างประเทศ จะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของตลากการค้าโลกมากกว่า ทำให้ฟื้นตัวได้เร็วกว่า นอกจากนี้ มาเลเซียยังจะได้ประโยชน์เเละทำกำไรจากการที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย

ขณะที่เศรษฐกิจไทยและอินโดนีเซียนั้น พึ่งพาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจึงมีความเสี่ยงมากกว่าทั้งในด้านข้อจำกัดการเดินทางเเละการติดเชื้ออีกทั้งยังได้ประโยชน์จากการขยายตัวของการค้าโลกน้อยกว่า

ยอดติดพุ่ง เเต่ฉีดวัคซีนล่าช้า

Goldman Sachs ตั้งข้อสังเกตว่า เเม้การระบาดในอาเซียนจะพุ่งสูงไม่หยุด เเต่สัดส่วนการฉีดวัคซีนให้กับประชากรในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศตะวันตก ยกเว้นเพียงสิงคโปร์

โดยสิงคโปร์ สามารถฉีดวัคซีนให้กับประชากรครบโดส (2 เข็ม) ไปแล้วกว่า 41% นับหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนได้เร็วที่สุดในโลก

ส่วนมาเลเซีย กระจายวัคซีนให้ประชาชนครบโดสไปเพียง 12.4% ตามมาด้วยอินโดนีเซียที่ 5.7% ในขณะที่ฟิลิปปินส์และไทย ยังมีอัตรการการฉีดวัคซีนครบโดสไม่ถึง 5% ของประชากรทั้งหมด

 

ที่มา : CNBC

]]>
1342841
Goldman Sachs คาด GDP สหรัฐฯ ปีนี้โต 6.6% หลัง ‘ไบเดน’ ทุ่ม 1.9 ล้านล้าน กระตุ้นเศรษฐกิจ https://positioningmag.com/1314800 Mon, 18 Jan 2021 12:44:30 +0000 https://positioningmag.com/?p=1314800 Goldman Sachs ธนาคารใหญ่ในสหรัฐฯ ปรับคาดการณ์จีดีพีของอเมริกา ปีนี้โต 6.6% เป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในรอบเดือนนี้ หลังโจ ไบเดนประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์

ธนาคาร Goldman Sachs ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 2021 นี้จะขยายตัวเติบโตได้ 6.6% เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 6.4%

โดยมองว่า มาตรการฟื้นฟูเยียวยาของว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ จะเป็นตัวเร่งให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัว
จากการเเพร่ระบาดของ COVID-19 ได้เร็วขึ้น พร้อมๆ กับการทยอยฉีดวัคซีนทั่วประเทศ

นอกจากนี้ Goldman Sachs ได้เพิ่มคาดการณ์จำนวนงบประมาณของรัฐบาลของไบเดน ที่จะผลักดันออกมากระตุ้นเศรษฐกิจจากเดิมที่ 7.5 เเสนล้านดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากพรรคเดโมเเครตสามารถกุมเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา

เมื่อวันที่ 15 ..ที่ผ่านมาโจ ไบเดน” เปิดเผยงบประมาณแพ็กเกจ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเน้นไปที่การฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยการช่วยเหลือประชาชนและธุรกิจรายย่อยที่ได้รับผลกระทบ และเพิ่มอัตราการแจกจ่ายวัคซีนป้องกัน COVID-19 เพื่อควบคุมสถานการณ์โรคระบาดในประเทศให้ได้

(Photo by Spencer Platt/Getty Images)

สำหรับแพ็กเกจ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เเบ่งคร่าวๆ เป็นการช่วยเหลือครัวเรือนโดยตรงราว 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในส่วนช่วยเหลือธุรกิจรายย่อยเเละชุมชนที่ได้รับผลกระทบ จะใช้งบประมาณราว 4.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่อีก 4.15 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ จะนำไปใช้สำหรับการควบคุมการระบาด ทั้งการแจกจ่ายและจัดสถานที่สำหรับการฉีดวัคซีน

ก่อนหน้านี้ ไบเดนประกาศว่า เขาต้องการให้ 100 ล้านคนทั่วประเทศได้ฉีดวัคซีนภายใน 100 วันแรกหลังขึ้นตำแหน่งเป็นประธานาธิบดี

โดยในงบประมาณสำหรับช่วยเหลือครัวเรือนรัฐบาลไบเดนมีเเผนจะเเจกเงินให้ชาวอเมริกันทุกคน คนละ 1,400 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 42,000 บาท) เพิ่มเติมจากเงินเยียวยาที่สภาคองเกรสอนุมัติไปเเล้วที่ 600 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเดือนที่ผ่านมา พร้อมกับการเพิ่มเงินสวัสดิการคนว่างงานจาก 300 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นเป็น 400 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ เเละขยายโครงการไปถึงเดือนกันยายน

 

 

ที่มา : Reuters (1),(2)

]]>
1314800