Saturday, December 20, 2025
Home Blog Page 10418
ด้วยจุดเริ่มต้นของการกำหนดคอนเซ็ปต์ของธุรกิจไว้อย่างชัดเจน ได้สร้างความสำเร็จอันรวดเร็วให้กับร้านอาหารจีนสไตล์โมเดิร์นแห่งนี้ POSITIONING จะนำพาไปพบกับเรื่องราวของ “ซั่งไห่เสี่ยวหลงเปา” โดยมีสีสันของมหานครเซี่ยงไฮ้เป็นฉากเบื้องหลัง “ทำไมร้านอาหารจีนจำต้องอยู่ตามโรงแรมหรือภัตตาคารหรูๆ เท่านั้น? ทำไมอาหารจีนถึงต้องมีราคาแพงเกินกว่าจะเป็นมื้อทานเล่น? ทำไมการทานอาหารจีนจะต้องไปกันเป็นกลุ่มใหญ่ หรือทั้งครอบครัว? ทำไมต้องเสียเวลาในการรออาหารนาน และจะต้องกินเฉพาะโอกาสพิเศษๆ เท่านั้นหรือ ทำไมๆๆ…” คำถามเหล่านี้ คือ ภาพเดิมๆ ของร้านอาหารจีนบ้านเรา ซึ่งเป็นคำถามที่คาใจ “อรัญ เอี่ยมสุรีย์” มานานว่า “เหตุใดอาหารจีนจึงไม่เป็นแพร่หลายในกลุ่มคนรุ่นใหม่?” จากสิ่งที่ค้างคา กลายเป็นแรงผลักดันให้อรัญ นักพัฒนาอสังหาฯ หนุ่มใหญ่ที่สืบเชื้อสายมาจากเซี่ยงไฮ้ คิดที่จะก่อตั้งร้านอาหารจีนกึ่งฟาสต์ฟู้ดขึ้นมา และเป็นรูปแบบใหม่ของ Quick Service...
บริษัท นาโน เซิร์ช จำกัด ได้ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมการรับชมภาพยนตร์ของคนไทยในชื่อว่า “ยุคทองของหนังไทย” หลังจากครึ่งปีหลังพบว่าภาคธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตได้ คือ ไอที สินค้ามือสอง เอนเตอร์เทนเมนต์ ประกันชีวิต และขายตรง โดยเฉพาะธุรกิจบันเทิงมีกระแสที่น่าสนใจ ทั้ง animation ภาพยนตร์ และสถานที่เที่ยวกลางคืน (ผับ บาร์) และงานวิจัยชิ้นนี้เลือกโฟกัสไปที่ภาพยนตร์ โดยกำหนดอายุของกลุ่มตัวอย่างที่ช่วงอายุ 21-40 ปี มีพฤติกรรมในการดูภาพยนตร์เป็นประจำ และติดตามข้อมูลข่าวสารทางด้านภาพยนตร์ พบว่าเป็นเพศชาย 50.5 % เพศหญิง 46% และเกย์ 3.5% ตามลำดับ 1.รายได้ รายได้ไม่เกิน...
“บ้านหนังไทย” และ “โรงเรียนผู้กำกับ” เป็นชื่อเรียกของไฟว์สตาร์ โปรดักส์ชั่น... ไฟว์สตาร์ฯ จัดอยู่ในฐานะระดับสตูดิโอขนาดใหญ่ ผลิตผลงานมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เริ่มต้นในธุรกิจภาพยนตร์เมื่อปี 2516 หรือกว่า 30 ปี นับตั้งแต่ เกียรติ เอี่ยมพึ่งพร ผู้ก่อตั้งได้เสียชีวิตลง และ “เจริญ เอี่ยมพึ่งพร” ในฐานะน้องชาย เข้ามารับตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร ไฟว์สตาร์ จึงกลายเป็นบริษัทที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย เป็นบริษัทแรกที่มีโรงถ่ายทำภาพยนตร์เป็นของตัวเอง และยังทำงานด้านนี้เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ผลงานการผลิตภาพยนตร์ไทยของไฟว์สตาร์มีมากกว่า 240 เรื่อง จากผลงานการสร้างของผู้กำกับมากกว่า 70 คน ไฟว์สตาร์จึงเป็นเหมือนโรงเรียนผู้กำกับภาพยนตร์แนวหน้า และบ้านของหนังไทย หากดูในเชิงประวัติศาสตร์ ไฟว์สตาร์ผ่านความรุ่งเรืองขีดสุดจาก...
หลังจากประสบความสำเร็จร่วมกันจากภาพยนตร์เด็กเรื่อง "แฟนฉัน" 3 บริษัทหนังไทย ทั้งบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน), บริษัท ไท เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด และบริษัท หับโห้หิ้น บางกอก จำกัด ที่เป็นหุ้นส่วนความสำเร็จครั้งนั้น ประกาศรวมตัวเป็นพันธมิตรอย่างถาวร กับบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ "จีเอ็มเอ็ม - ไท - หับ" หรือ “GTH” เมื่อพฤษภาคม ปีที่แล้ว เมื่อเราถามถึงความเป็นไปได้ และโอกาสของภาพยนตร์ไทยในต่างประเทศ วิสูตร พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร GTH เล่าว่า “ถ้ามี...
ปี 2543 นับเป็นจุดต่ำสุดของวงการภาพยนตร์ มีหนังไทยสร้างออกมาเพียงแค่ 9 เรื่อง โดยมีรายได้เพียง 500 ล้านต่อปี แต่ปีถัดมา 2544 กลับกระโดดไปเป็น 1,300 ล้านบาท ถือเป็นจุดเริ่มต้นศักราชใหม่ของหนังไทย หลังจากภาวะขาลงที่กินเวลามายาวนาน และยังจุดเริ่มต้นกระแสหนังไทยในตลาดโลกเช่นกัน โดยหนังไทย 6 เรื่อง อย่าง โกลคลับ, สุริโยไท, จันดารา, บางระจัน, ขวัญเรียม และ 14 ตุลาฯ ได้กระแสตอบรับอย่างดีจากเทศกาลนานาชาติ ตามหลัง “นางนาก” ที่เคยทำในปี 2542 ลู่ทางของหนังไทยออกนอก “เพื่อขาย” อย่างเป็นระบบ...
31 ม.ค. 46 ประเทศไทย "องค์บาก" ลงโรงในช่วงจังหวะตรุษจีน พร้อมสร้างสถิติภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดประจำปี 2546 ในอันดับที่ 2 ด้วยยอดรายได้ 120 บาท จากการเข้าฉายเฉพาะในกรุงเทพฯ และกวาดรายได้รวมทั่วประเทศมากกว่า 200 ล้านบาท 5 ก.ย.46 International Premium เป็นการเปิดตัวรอบปฐมทัศน์ในระดับนานาชาติครั้งแรก ในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโต (อเมริกาเหนือ) โดยเข้าฉายในโปรแกรม Midnight Madness ตลอดรายการด้วยเสียงเชียร์ จนเมื่อจบภาพยนตร์เรื่องได้สถิติ The Longest Standing Ovation ยืนตบมือนานที่สุด ในประวัติศาสตร์ 16 ปีของโปรแกรมนี้ จนทำให้องค์บากเป็นหนังที่ฮอตที่สุด ที่กล่าวขวัญถึงในอินเทอร์เน็ตแบบข้ามโลก...
ถ้า “องค์บาก” คือหนังเรื่องแรกที่สร้างตำนานความสำเร็จของ “จา พนม” คงต้องบอกว่า หนังฟอร์มเล็กเมื่อปี 2514 หรือปี 1971 ในเรื่อง The Big Boss หรือ ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง ก็คือหนังบู๊เรื่องแรกที่สร้างชื่อให้กับเจ้าตำนานกังฟูอย่าง บรูซ ลี เช่นกัน หากถามคนรุ่นนี้ว่า หนังที่บรูซ ลี แจ้งเกิดครั้งแรกนี้ ถ่ายที่ไหน ส่วนใหญ่คงตอบว่า ฮ่องกง หรือไม่ก็อเมริกา แต่หลายคนคงลืมไปแล้วว่า หนังฮ่องกงเรื่องนี้ใช้โลเกชั่นถ่ายทำในเมืองไทยทั้งเรื่อง ! ...
"การจะคิดค้นสิ่งใหม่ๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย ฉากต่อสู้ในแผ่นฟิล์ม ถ้าไม่สู้กันในป่าไผ่ ก็ไปสู้กันบนหลังคาวัด หรือไม่ก็ไปสู้กันบนผิวน้ำ ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ผู้ชมคงดูจนเอียน !” การจะบอกลอยๆ ว่าหนังไทยคือองค์บาก ได้ใช้ “โอกาส” และ “จังหวะ” ในขณะที่ภาพยนตร์กังฟูจีนและฮ่องกงกำลังเกิดวิกฤต ไปสร้างกระแส retro ย้อนยุคในตลาดโลกจนประสบความสำเร็จ... พูดเฉยๆ แบบนี้ คงอาจมองได้ว่าคนไทยก็ย่อมเชียร์หนังไทยเป็นธรรมดาแน่นอนที่สุด แต่เมื่อหนึ่งในสุดยอดตำนานดาราหนังบู๊จีน ต้องเอ่ยปากออกมาอย่างอดทนไม่ไหวว่า “กังฟูกำลังถึงขั้นวิกฤต” ประโยคแรงๆ สั้นๆ แต่ได้ใจความของ “เฉิงหลง” หรือที่คุ้นปากคนไทยมานานว่า “ เฉินหลง”ในงาน เซี่ยงไฮ้...
ดังเปรี้ยงชนิดไม่ต้องโปรโมต ! คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณขององค์บากและ จา พนม หากถึงขั้นที่แม็กกาซีน Entertainment Weekly เมื่อเดือนที่ผ่านมาจัดอันดับให้ติดทำเนียบ 122 คนและของดังแห่งปี 2005 ในฐานะดาวรุ่งพุ่งแรง และเป็นหนึ่งในดาราเอเชีย 2 รายที่ติดอันดับ ในขณะที่ก่อนหน้านั้นก็เพ่งลงนิตยสารGQ อเมริกาไปเมื่อเดือนเมษาฯ ไปหมาดๆ ก่อนหน้า “ปรากฏการณ์องค์บาก” จะเผยตัวตนของหนังบู๊ไทยเมื่อสองปีก่อน คำว่า “ตลาดโลก”ดูจะไกลเกินฝันสำหรับหนังไทยซักเรื่อง เมืองไทยเป็นแค่ “ตลาด” และ “ผู้ซื้อ” ไม่ใช่...
การนำภาพยนตร์มาอยู่รูปของหนังสือการ์ตูน เป็นโมเดลธุรกิจที่มีมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหนังเรื่อง องค์บาก มหาอุตม์ บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม หรือ 7 ประจัญบาน รวมทั้ง “ต้มยำกุ้ง” ภาพยนตร์ไทยเรื่องล่าสุด ซึ่งจัดเป็นโมเดลของการนำ “เรื่องเล่า” กลับมาเล่าซ้ำ เพื่อให้เกิดช่องทางขายใหม่ และเป็นการขยายฐานคนดูร่วมกัน ระหว่างภาพยนตร์ และหนังสือการ์ตูน “วิบูลย์กิจ” เป็นสำนักพิมพ์การ์ตูน ที่ทำงานร่วมกับภาพยนตร์มาได้ 2 ปี ภายใต้ชื่อ “Thaicomics” และยังจัดเป็นผู้ผลิตหนังสือการ์ตูนรายใหญ่ ที่ทำร่วมงานกับภาพยนตร์หลายเรื่องอย่าง มหาอุตม์ บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม และ 7 ประจัญบานมาแล้ว ล่าสุดคือ ต้มยำกุ้ง ที่เป็นผลงานล่าสุดในการทำงานร่วมกับสหมงคงฟิล์ม...