Travel Bubble – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Sat, 12 Jun 2021 05:38:55 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘สิงคโปร์’ เร่งหารือ ‘ออสเตรเลีย’ หลังการฉีดวัคซีนล่าช้าทำชะลอ ‘Travel Bubble’ https://positioningmag.com/1336664 Fri, 11 Jun 2021 12:48:01 +0000 https://positioningmag.com/?p=1336664 ทั้งสิงคโปร์และออสเตรเลียได้เผชิญกับการระบาดของ COVID-19 โดยมีผู้ป่วยรวมมากกว่า 62,000 และ 30,000 ตามลำดับ และจากความล่าช้าของการฉีดวัคซีนทำให้แผน ‘Travel Bubble’ ต้องชะงักลง

สิงคโปร์และออสเตรเลียเร่งหารือเพื่อทำให้เกิด ‘Travel Bubble’ ระหว่างทั้งสองประเทศ หลังจากต้องเบรกโครงการดังกล่าวเนื่องจากการระบาดใหญ่ที่กินเวลามากกว่าหนึ่งปี โดยสิงคโปร์ได้กล่าวเมื่อเดือนมีนาคมว่าทั้งสองประเทศกำลังหารือเกี่ยวกับแผนการเดินทางปลอดการกักกัน

“เราได้หารือกันว่าการเดินทางแบบไปกลับระหว่างสิงคโปร์และออสเตรเลียสามารถกลับมาใช้งานได้อีกครั้งอย่างปลอดภัยและเหมาะสม เมื่อทั้งสองฝ่ายพร้อม” ลี เซียนลุง ผู้นำสิงคโปร์กล่าวในการแถลงข่าวร่วมกับสกอตต์ มอร์ริสัน รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย

ทั้งสิงคโปร์และออสเตรเลียมีผู้ป่วยรวมมากกว่า 62,000 และ 30,000 ตามลำดับ โดย ลี เซียนลุง กล่าวว่า ทั้งสองประเทศจำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานและกระบวนการเพื่อทำให้เกิด Travel Bubble โดยเริ่มจากการยอมรับร่วมกันของใบรับรองด้านสุขภาพและการฉีดวัคซีน

“เมื่อการเตรียมการทั้งหมดพร้อมแล้ว เราสามารถเริ่มต้นเล็ก ๆ ด้วยฟองสบู่การเดินทางทางอากาศเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทั้งสองฝ่าย” เขากล่าว

มอร์ริสัน กล่าวว่า เขายินดีต้อนรับประเทศที่ทำงานร่วมกันเพื่อวางระบบเพื่อให้เกิดฟองสบู่ระหว่างพวกเขา อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า “ยังมีเวลาอีกสักระยะก่อนที่เราจะไปถึงขั้นนั้น” ซึ่งปัจจุบันมีชาวออสเตรเลียเพียง 5.5 ล้านคนจาก 26 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม

ทั้งนี้ สิงคโปร์และออสเตรเลียเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ โดยทั้ง 2 ประเทศยังไม่ได้ผ่อนคลายข้อจำกัดบริเวณชายแดน โดยรัฐบาลออสเตรเลียได้สั่งปิดพรมแดน และไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่ใช่พลเมืองและไม่ใช่ผู้อยู่อาศัยเข้าประเทศตั้งแต่ปีที่แล้ว ขณะที่สิงคโปร์ไม่อนุญาตให้ผู้เดินทางระยะสั้นเข้าประเทศ ยกเว้นผู้ที่อยู่ในบางโครงการ อาทิ เลนสีเขียวเพื่อนักเดินทางเชิงธุรกิจ

Source

]]>
1336664
รอลุ้น! เกาหลีใต้ เล็งเจรจาเปิด ‘Travel Bubble’ กับไทยเเละอีกหลายประเทศ คาดเริ่มเร็วสุด ก.ค.นี้ https://positioningmag.com/1336277 Thu, 10 Jun 2021 08:33:31 +0000 https://positioningmag.com/?p=1336277 เกาหลีใต้ เตรียมคุยเปิด ‘Travel Bubble’ กับไทยเเละอีกหลายประเทศ สำหรับผู้ฉีดวัคซีนครบ
โดสเเล้ว เพื่อกระตุ้นธุรกิจภาคท่องเที่ยว คาดเริ่มได้เร็วที่สุดช่วงเดือนก..นี้

กระทรวงวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยวของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังหารือข้อตกลงเกี่ยวกับโครงการ ‘Travel Bubble’ หรือการเดินทางระหว่างกันแบบไม่ต้องกักตัวกับหลายประเทศ เช่น ไทย สิงคโปร์ ไต้หวัน กวมและเกาะไซปัน ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของหมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียอานา ภายใต้การปกครองของสหรัฐฯ โดยขณะนี้ได้เริ่มเจรจากับสิงคโปร์และไต้หวันเเล้ว

เบื้องต้นจะเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเเละชาวเกาหลีใต้ ที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบโดส (2 เข็ม) เเล้ว และมีการเดินทางเป็นกรุ๊ปผ่านเอเยนซี่บริษัททัวร์ สามารถท่องเที่ยวระหว่าง ประเทศที่ตกลงกันได้ อย่างเร็วที่สุดภายในเดือนก..นี้

โดยข้อตกลงดังกล่าว จะจำกัดการเดินทางเฉพาะจากสนามบินอินชอนกับสนามบินที่กำหนดไว้ในประเทศปลายทางเท่านั้น และผู้เดินทางจะต้องอยู่ในประเทศปลายทางนาน 2 สัปดาห์ นับเป็นก้าวแรกในเเผนการฟื้นฟูตลาดท่องเที่ยวและสายการบินของเกาหลีใต้

Travel Bubble จะช่วยให้ผู้คนสามารถเดินทางข้ามพรมแดนได้อย่างอิสระภายในโซนที่กำหนด โดยไม่ต้องกักตัวเมื่อเดินทางมาถึงประเทศปลายทาง แต่จะต้องแสดงเอกสารการฉีดวัคซีนและผลตรวจโควิด-19 เเบบ RT-PCR ที่ระบุว่าไม่ติดเชื้อก่อนเดินทางภายใน 72 ชั่วโมง และเมื่อเดินทางถึงประเทศปลายทางเเล้ว ก็ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสอีกครั้ง

เที่ยวบินตรงระหว่างเกาหลีใต้กับประเทศปลายทางที่ตกลงเปิด Travel Bubble ระหว่างกัน ในช่วงเเรกจะบินสัปดาห์ละ 1-2 เที่ยวบิน จำกัดผู้โดยสารเที่ยวบินละไม่เกิน 200 คน ซึ่งจะมีการขยายเพิ่มเที่ยวบินเเละผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ต่อไป

Photo : Shutterstock

รัฐบาลเกาหลีใต้ คาดว่าโครงการ Travel Bubble จะช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมการเดินทางทางอากาศและการท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโรคระบาดตลอดช่วงปีที่ผ่านมา พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ

อย่างไรก็ตาม ‘Travel Bubble’ ยังมีความท้าทายอยู่มาก อย่างเช่น กรณีที่สิงคโปร์วางแผนจะเปิดตัวโครงการนี้ครั้งแรกกับฮ่องกง มาตั้งเเต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว แต่ต้องถูกเลื่อนออกไปถึง 2 ครั้ง เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้น

ด้านกวมและไซปัน ซึ่งเป็นดินแดนของสหรัฐอเมริกา เพิ่งอนุญาตให้ผู้มาเยือนที่ฉีดวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติจากสหรัฐฯ เช่น Pfizer , Moderna และ Johnson & Johnson เดินทางเข้ามาได้โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน

ทำให้ Jeju Air สายการบินราคาประหยัดที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ กลับมาเปิดเที่ยวบินตรงมายังไซปันแล้ว โดยคาดว่าจะมีความต้องการเดินทางเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

โดยล่าสุด (9 มิ..) ชาวเกาหลีใต้ราว ราว 9.2 ล้านคน หรือคิดเป็น 17.9% ของประชากรทั้งหมด ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดสเเรก

รัฐบาลพยายามเร่งโครงการฉีดวัคซีนโดยสร้างแรงจูงใจต่าง เช่น อนุญาตให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส สามารถออกไปเดินเล่นนอกบ้านได้โดยไม่สวมหน้ากากอนามัย และมีการพบปะครอบครัวกลุ่มใหญ่ขึ้นได้ ตั้งแต่เดือนก..เป็นต้นไป พร้อมเเจกบัตรเข้าชมฟรีที่พระราชวังและส่วนลดสำหรับตั๋วเข้าชมการแสดงต่างๆ

ส่วนผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดส จะได้รับการยกเว้นจากการห้ามชุมนุมเกิน 4 คนตามมาตรการปัจจุบัน ตั้งแต่เดือนก.. เป็นต้นไปเช่นกัน

ทั้งนี้ เกาหลีใต้ ตั้งเป้าจะฉีดวัคซีนโดสเเรกให้ประชาชนกว่า 36 ล้านคน หรือ 70% ของประชากรทั้งหมดให้ได้ภายในเดือนพ..นี้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติโดยเร็ว 

 

ที่มา : Pulse , Straitstimes , Bangkokpost 

 

]]>
1336277
ฮ่องกง-สิงคโปร์ เร่งกระตุ้นท่องเที่ยว หลังคุมโควิดได้ดี ฟื้น ‘Travel Bubble’ อีกครั้ง เริ่ม 26 พ.ค.นี้ https://positioningmag.com/1329285 Mon, 26 Apr 2021 09:22:39 +0000 https://positioningmag.com/?p=1329285 ในที่สุดโครงการ ‘Travel Bubble’ ระหว่างสิงคโปร์เเละฮ่องกง สองศูนย์กลางการเงินเอเชีย ที่จำเป็นต้องเลื่อนมาหลายรอบ ก็ถึงเวลากลับมาเริ่มใหม่อีกครั้งในวันที่ 26 ..นี้

ความไม่เเน่นอนของ COVID-19 ทำให้ Travel Bubble ที่เป็นเหมือน ‘ความหวังใหม่’ ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งมีกำหนดจะเริ่มตั้งเเต่เดือนพ..ปีที่ผ่านมา ต้องโดนชะลอเเผนไปด้วย

Ong Ye Kung รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของสิงคโปร์ ระบุว่า สถานการณ์การเเเพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในฮ่องกงที่ดีขึ้นมาก เเละมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียงไม่กี่รายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันทางสิงคโปร์เอง ก็มีอัตราการติดเชื้อในระดับต่ำมาก จึงเป็นโอกาสที่จะตกลงทำ ATB (Air Travel Bubble) ร่วมกันอีกครั้ง ซึ่งหากสถานการณ์อีก 1 เดือนข้างหน้าสามารถ ‘ควบคุมได้’ เช่นนี้ ก็จะเป็นไปตามเเผนที่วางไว้ เเต่ก็รับรองไม่ได้ว่าทุกอย่างจะราบรื่นหรือไม่

สำหรับโครงการ ATB จะเริ่มต้นใหม่ในวันที่ 26 .. นี้ โดยแต่ละวันจะมีเที่ยวบินหนึ่งเที่ยวบินออกจากฮ่องกงและสิงคโปร์ เเละรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 200 คน (ในช่วงสองสัปดาห์แรก) ผ่านบริการของ 2 สายการบินอย่างคาเธ่ย์แปซิฟิคและสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์เท่านั้น

(Photo : Singapore Airlines)

จากข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้ให้ประชาชนทั้งสองฝ่าย สามารถเดินทางไปมาหากันได้โดยไม่ต้องกักตัวและไม่มีข้อจำกัดวัตถุประสงค์การเดินทาง ซึ่งผู้ที่เดินทางทุกคนจะต้องมีผลตรวจหาเชื้อ COVID-19 เป็นลบ เเละได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดส เเล้วอย่างน้อย 14 วัน รวมถึงต้องติดตั้งแอปพลิเคชั่นที่ใช้ระบุที่อยู่ด้วย

ด้าน Edward Yau รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์และการพัฒนาเศรษฐกิจของฮ่องกง กล่าวว่า โครงการ ‘travel bubble’ ไม่เพียงเเต่จะตอบสนองความต้องการของประชาชนและภาคธุรกิจเท่านั้น แต่ยังชี้ให้เห็นถึงการเริ่มต้นใหม่ของการเดินทางข้ามพรมแดนอย่างค่อยเป็นค่อยไป

เเต่หากเกิดกรณีที่ค่าเฉลี่ยในรอบ 7 วันของผู้ติดเชื้อรายวันที่ไม่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อในชุมชนสูงเกิน 5 คนต่อวันไม่ว่าทั้งในฮ่องกงหรือสิงคโปร์ โครงการนี้จะถูกระงับทันที

การเเพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกต้องตกต่ำลงอย่างมาก โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางไปยังสิงคโปร์ลดลงถึง 81.2% ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2020 จากเดิมเคยเป็นช่วงไฮซีซั่น

สายการบินหลักของทั้งสิงคโปร์เเละฮ่องกง ต้องตกอยู่ในสภาวะวิกฤต โดยสิงคโปร์ แอร์ไลน์ขาดทุนราว 1.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 9 เดือนถึงธันวาคม 2020 หลังผู้โดยสารหดตัว 97.6% เเละไม่มีเส้นทางการบินในประเทศมาชดเชยเหมือนที่อื่น

ขณะที่สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกง รายงานผลขาดทุนประจำปี 2020 ที่ 2.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เเละต้องปลดพนักงานออกไปประมาณ 1 ใน 4

Photo : Shutterstock

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์เริ่มเปิดการเดินทางข้ามพรมเเดนแบบไม่ต้องกักตัว ถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี หลังทั้งสองประเทศประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19

โครงการ Travel Bubble เป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยฟื้นฟูการเชื่อมต่อระหว่างนิวซีแลนด์กับโลก และเป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนควรภูมิใจ นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น แห่งนิวซีแลนด์ ระบุ

อย่างไรก็ตาม เพียงไม่กี่วันหลังจากเปิด Travel Bubble ทางการนิวซีแลนด์ ต้องสั่งระงับโครงการนี้กับรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียแล้ว หลังพบว่ามีการเเพร่เชื้อ COVID-19 หลุดจากสถานที่กักตัวในเมืองเพิร์ทจนทำให้มีการระบาดระลอกใหม่…จึงเป็นความท้าทายของ ‘Travel Bubble’ ที่จะต้องมีการเเก้ปัญหาร่วมกันต่อไป

 

 

ที่มา : BBC , CNA 

]]>
1329285
“บาหลี” ตั้งเป้าเปิดเมือง! รับนักท่องเที่ยว 6 ประเทศภายในเดือน ก.ค. นี้ https://positioningmag.com/1328209 Mon, 19 Apr 2021 08:23:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1328209 “บาหลี” เมืองท่องเที่ยวของ “อินโดนีเซีย” วางเป้าเปิดรับนักเดินทาง 6 ประเทศภายในเดือนกรกฎาคมนี้ เร่งฉีดวัคซีนให้คนบาหลีก่อนเพื่อเตรียมความพร้อม หวังฟื้นเศรษฐกิจบาหลีที่ช้ำหนักที่สุดในประเทศท่ามกลาง COVID-19

สำนักข่าว South China Morning Post รายงานข่าวความคืบหน้าโครงการเปิดพื้นที่ท่องเที่ยว “กรีนโซน” ให้นักเดินทางจากประเทศที่รัฐบาลเจรจาสำเร็จ สามารถเข้าเที่ยวชมได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยพื้นที่ “กรีนโซน” จุดแรกที่จะเปิดตัว ได้แก่ บาหลี บินตัน และบาตัม แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ

การเจรจา Travel Bubble ของอินโดนีเซียกับอีก 6 ประเทศที่ต้องการให้เข้ามาท่องเที่ยว ได้แก่ สิงคโปร์ จีน เกาหลีใต้ อินเดีย เนเธอร์แลนด์ และ UAE นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าประเทศยูเครนและโปแลนด์ก็กำลังติดต่อเจรจาเพื่อขอจัดเที่ยวบินแบบชาร์เตอร์ไฟลต์ นำนักท่องเที่ยวในจำนวนที่ตกลงกันบินตรงมาท่องเที่ยวในบาหลีเช่นกัน

หากอินโดนีเซียทำได้สำเร็จ จะถือเป็นการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี หลังจากประเทศนี้ต้องปิดพรมแดนยาวเพื่อสกัด COVID-19 ห้ามชาวต่างชาติเข้าสู่ประเทศ นอกจากมีสิทธิพำนักถาวร หรือได้รับการยกเว้นเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นแขกของรัฐหรือสถาบันในอินโดฯ

Floating Breakfast กลายเป็นภาพจำของรีสอร์ตในบาหลีที่นักท่องเที่ยวรอคอย (Photo : Shutterstock)

แต่ก่อนจะทำเช่นนั้นได้ บาหลีต้องลุ้นให้แผนการระดมฉีดวัคซีนของรัฐเป็นไปตามเป้าหมาย โดยสำนักข่าว Jakarta Globe ระบุว่า Wayan Koster ผู้ว่าราชการจังหวัดบาหลี หวังว่าประชากรบาหลีที่มี 4.5 ล้านคน จะได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2.5 ล้านคนภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่มากพอที่จะต้อนรับชาวต่างชาติ

อย่างไรก็ตาม Koster แสดงความกังวลเพราะ ณ เดือนมีนาคม 2021 คนบาหลีเพิ่งได้รับวัคซีนเพียง 3 แสนคนเท่านั้น

ข้อมูลจาก Bloomberg อัปเดต ณ วันที่ 19 เมษายน 2021 อินโดนีเซียมีการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสต่อคนไปแล้ว 2.2% ของจำนวนประชากร ส่วนวัคซีนที่ฉีดอย่างน้อย 1 โดสต่อคนคิดเป็น 4.1% ของประชากร

บาหลีนั้นได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจหนักที่สุดในอินโดนีเซีย เนื่องจากประชากรถึง 54% พึ่งพิงธุรกิจการท่องเที่ยว เมื่อประเทศต้องปิดพรมแดนยาวนานกว่าปี จึงทำให้ประชากรสูญเสียรายได้อย่างรุนแรง

จ.ภูเก็ต ประเทศไทย

สำหรับประเทศไทยนั้น มีโครงการเปิดประเทศที่คล้ายคลึงกัน นั่นคือจะเลือกเปิดเป็นบางจุดก่อน โดยประเทศไทยเลือก “ภูเก็ต” เป็นจุดแรก เตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยววันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ก่อนจะปลดล็อกอีก 5 จุดต่อไปคือ กระบี่ พังงา เกาะสมุย เชียงใหม่ และพัทยา เป็นลำดับต่อไปในวันที่ 1 ตุลาคมนี้

โดยนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาได้โดยไม่ต้องกักตัว จะต้องรับวัคซีนครบ 2 โดสมาเรียบร้อยแล้ว และไม่ได้จำกัดว่าเป็นนักท่องเที่ยวชาติใด

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยโดยเฉพาะชาวภูเก็ตต้องรอติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์นี้ เพราะแผนดังกล่าวอาจถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากหนึ่งในเงื่อนไขเดิมของแผน “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” คือ ชาวภูเก็ตจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 70% ของประชากรก่อนเปิดประเทศ หรือเท่ากับ 9.3 แสนโดส

แต่ปัจจุบันประเทศไทยเผชิญการระบาดของ COVID-19 ระลอกสาม ทำให้วัคซีนที่จะนำไปกระจายใน จ.ภูเก็ต ต้องถูกโยกไปใช้ในพื้นที่ที่มีการระบาดสูงแทน จึงน่าเป็นห่วงว่าการฉีดวัคซีนให้กับชาวภูเก็ตอาจจะไม่เป็นไปตามเป้า โดยขณะนี้ภูเก็ตได้รับวัคซีนไปเพียง 1 แสนโดสเท่านั้น

Source: The Jakarta Globe, SCMP, Anadolu Agency, Bangkok Post

]]>
1328209
ชื่นมื่น! “ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์” เปิด “ทราเวลบับเบิล” สำเร็จ เดินทางโดยไม่ต้องกักตัว https://positioningmag.com/1328214 Mon, 19 Apr 2021 08:05:37 +0000 https://positioningmag.com/?p=1328214 ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์เริ่มเปิดการเดินทางระหว่างกันแบบไม่ต้องกักตัว หรือทราเวลบับเบิล วันที่ 19 เม.ย. ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี โดยเป็นผลสืบเนื่องจากการที่ทั้ง 2 ประเทศประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19

แม้รัฐส่วนใหญ่ในออสเตรเลียจะอนุญาตให้ชาวนิวซีแลนด์ เดินทางเข้าแบบไม่ต้องกักตัวได้ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ทว่านิวซีแลนด์เองยังคงบังคับใช้มาตรการกักตัวผู้เดินทางจากแดนจิงโจ้ เนื่องจากมีรายงานพบการระบาดของไวรัสแบบเป็นกลุ่มก้อนอยู่เป็นระยะๆ

“โครงการทราเวิลบับเบิลถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยฟื้นฟูการเชื่อมต่อระหว่างนิวซีแลนด์กับโลก และเป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนควรภูมิใจ” นายกรัฐมนตรี จาซินดา อาร์เดิร์น แห่งนิวซีแลนด์ ให้สัมภาษณ์สื่อที่กรุงเวลลิงตัน

ผู้นำหญิงแดนกีวียังระบุด้วยว่า มารีส เพย์น รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย จะเดินทางเยือนนิวซีแลนด์ในวันพุธที่ 21 เม.ย. ส่วนนายกรัฐมนตรี สก็อตต์ มอร์ริสัน ก็มีแผนที่จะเยือนนิวซีแลนด์ “ในอนาคตอันใกล้” หลังจากที่มีการเปิดพรมแดนระหว่างกัน

สื่อโทรทัศน์ท้องถิ่นต่างรายงานข่าวและเผยแพร่ภาพประทับใจ ขณะที่ครอบครัว และญาติสนิทมิตรสหายเข้าสวมกอดและทักทายกันอย่างอบอุ่นที่สนามบิน ขณะที่อาคารผู้โดยสารขาออกในสนามบินต่างๆ ของออสเตรเลียก็เต็มไปด้วยผู้โดยสารที่เตรียมตัวออกเดินทาง

“ฉันไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นอย่างนี้มาก่อน ไม่ได้คาดหวังและไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนเลย เพราะไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริง” มิเชลล์ แรฟเฟอร์ที หนึ่งในผู้โดยสารที่เดินทางจากนิวซีแลนด์มายังนครซิดนีย์ให้สัมภาษณ์กับสื่อออสเตรเลีย

สายการบินแควนตัสเตรียมเพิ่มเที่ยวบินระหว่างทั้ง 2 ประเทศเป็น 200 เที่ยวต่อสัปดาห์ ขณะที่แอร์นิวซีแลนด์ก็ได้เพิ่มจำนวนเที่ยวบินขึ้น 4 เท่าตัวเป็น 30 เที่ยวต่อสัปดาห์ในวันที่ 19 เม.ย. โดยเที่ยวบินทุกลำที่เดินทางเข้านิวซีแลนด์มีผู้โดยสารจองที่นั่งเต็มถึง 97%

แม้การเปิดพรมแดนจะสร้างความยินดีและตื่นเต้นให้กับประชาชนที่ต้องห่างเหินจากครอบครัวไปนาน แต่ทั้ง มอร์ริสัน และ อาร์เดิร์น ย้ำว่ารัฐบาลทั้งสองจะ “พิจารณาทบทวน” โครงการอยู่เป็นระยะๆ และเตือนให้ผู้เดินทางเตรียมพร้อมในกรณีที่การเดินทางต้องถูกระงับอย่างปัจจุบันทันด่วน หากพบการแพร่ระบาดของ COVID-19

ข้อมูลสถิติอย่างเป็นทางการระบุว่า ในปี 2019 (ก่อนที่จะเกิดโรคระบาด) มีชาวออสเตรเลียเดินทางเข้านิวซีแลนด์ประมาณ 1.5 ล้านคน หรือคิดเป็น 40% ของผู้เดินทางทั้งหมด ซึ่งทำให้เกิดการใช้จ่ายในประเทศสูงถึง 2,700 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ (ราว 60,000 ล้านบาท)

ขณะเดียวกัน มีชาวนิวซีแลนด์กว่า 500,000 คน อาศัยอยู่ในออสเตรเลีย หรือคิดเป็น 2% ของประชากรออสเตรเลียทั้งหมด 26 ล้านคน

ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ต่างใช้มาตรการปิดพรมแดนกับพลเมืองต่างชาติ และผู้พำนักถาวรส่วนใหญ่มาเป็นระยะเวลากว่า 1 ปี ซึ่งมีส่วนช่วยให้รัฐบาลสามารถคุมจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ให้อยู่ในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วอื่นๆ

สำหรับผู้เดินทางจากต่างประเทศที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้านิวซีแลนด์และออสเตรเลียจะต้องผ่านกระบวนการกักตัว 14 วัน และออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง

ปัจจุบันออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อ COVID-19 สะสมเพียง 29,500 คน และมีผู้เสียชีวิต 910 คน ขณะที่นิวซีแลนด์พบผู้ป่วยสะสมเพียง 2,200 คน และมีผู้เสียชีวิตเพียง 26 คนเท่านั้น

Source

]]>
1328214
สำเร็จแล้ว! “ไต้หวัน-ปาเลา” Travel Bubble คู่แรกแห่งเอเชีย https://positioningmag.com/1326300 Fri, 02 Apr 2021 07:04:48 +0000 https://positioningmag.com/?p=1326300 Travel Bubble ความหวังของการท่องเที่ยวในหลายๆ ประเทศถูกเลื่อนแล้วเลื่อนอีกเมื่อปีก่อนเพราะจำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้น แต่ในที่สุด ปีนี้ก็มีคนทำสำเร็จนั่นคือ “ไต้หวัน” กับ “ปาเลา”

ในที่สุดก็มีข้อตกลง Travel Bubble ที่ทำได้สำเร็จเสียที สำนักข่าว CNN รายงานว่า เมื่อวานนี้ (1 เม.ย. 2021) ไฟลท์บินแรกระหว่าง “ไต้หวัน” กับ “ปาเลา” ได้เทกออฟไปแล้ว ทำการบินโดยสายการบิน China Airlines ออกจากสนามบินเถาหยวนของไต้หวันเวลา 14.30 น. และลงจอดที่ปาเลาเวลา 19.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ผู้โดยสารสามารถเข้าไปท่องเที่ยวในประเทศได้เลย ไม่ต้องกักตัว ตามข้อตกลงของทั้งสองดินแดน

ประเทศปาเลานั้นอาจจะไม่คุ้นหูชาวไทยมากนัก ปาเลาเป็นหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ทางตะวันออกของฟิลิปปินส์ ประเทศเล็กๆ นี้มีประชากรเพียง 18,000 คน และพึ่งพิงการท่องเที่ยวเป็นแหล่งรายได้หลักถึง 40% ของจีดีพี ทำให้โครงการ Travel Bubble ครั้งนี้จะเป็นประโยชน์มากต่อปาเลา

หาดทรายขาวของปาเลา ประเทศทางตะวันออกของฟิลิปปินส์ บัดนี้ร้างไร้ผู้คนเนื่องจาก COVID-19 (Photo : Shutterstock)

แม้จะเปิด Travel Bubble แล้ว แต่นักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าร่วมก็ต้องปฏิบัติตามกฎสุดเข้มคือ ต้องมาถึงสนามบินก่อนเวลาเทกออฟ 5 ชั่วโมง เพื่อผ่านการตรวจหาเชื้อโรค COVID-19 และรอฟังผลทันทีเวลา 13.00 น. หากผ่านการตรวจจึงขึ้นบินได้ และไม่ต้องกักตัว ณ ประเทศปลายทาง

นอกจากนี้ การเดินทางจะต้องไปกับบริษัททัวร์ 6 แห่งที่รัฐบาลไต้หวันรับรองเท่านั้น ไม่มีการเดินทางแบบ FIT เพราะทัวร์จะนำทุกท่านเที่ยวตามตารางอย่างเคร่งครัดในแหล่งท่องเที่ยวและโรงแรมที่ได้รับการรับรองแล้ว รวมถึงลูกทัวร์จะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ

ทัวร์ครั้งนี้แบ่งเป็นแบบ 4 วัน ราคา 75,000 ดอลลาร์ไต้หวัน และ 5 วัน ราคา 95,000 ดอลลาร์ไต้หวัน มีสถานที่ที่จะได้ไป เช่น ทะเลสาบแมงกะพรุน, แช่โคลนที่ทะเลสาบ Milky, พายเรือคายัคริมหาด, จิบชายามบ่าย ฯลฯ

ตำแหน่งของประเทศปาเลา ทางตะวันออกของฟิลิปปินส์

ทั้งสองดินแดนนี้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อต่ำเป็นระดับต้นๆ ของโลก โดยไต้หวันมีผู้ติดเชื้อเพียง 1,022 คน และมีผู้เสียชีวิต 10 ราย ขณะที่ปาเลาซึ่งชิงปิดประเทศอย่างรวดเร็ว ไม่มีผู้ติดเชื้อ COVID-19 แม้แต่รายเดียว แต่ก็ต้องแลกมากับการสูญเสียรายได้การท่องเที่ยวก้อนใหญ่ อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นประเทศเล็ก แต่ปาเลาได้รับวัคซีนโมเดอร์นาล็อตแรกไปแล้วตั้งแต่เดือนมกราคม 2021 ทำให้มีความพร้อมที่จะเปิดประเทศอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของไต้หวันกับปาเลาไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนยินดี เนื่องจากไต้หวันยังมีสถานะเป็นเขตปกครองตนเองของจีน ตามนโยบาย “One China” หรือ “จีนเดียว” ทำให้การทำข้อตกลงเฉพาะระหว่างรัฐบาลไต้หวันกับประเทศอื่นเป็นเรื่องที่จีนไม่ยอมรับ

แต่ดีลนี้สำเร็จได้ก็เพราะปาเลาเป็นหนึ่งในประเทศ/ดินแดนเพียง 15 แห่งของโลกที่มีสัมพันธ์การทูตกับไต้หวัน และเขตแดนต่อไปที่ไต้หวันกำลังเล็งทำ Travel Bubble คือ “กวม” เขตปกครองของสหรัฐฯ

Source

]]>
1326300
Travel Bubble ความหวังใหม่กระตุ้นท่องเที่ยว “ฮ่องกง-สิงคโปร์” สะดุด ต้องเลื่อนยาวไป “ปีหน้า” https://positioningmag.com/1308536 Tue, 01 Dec 2020 13:31:57 +0000 https://positioningmag.com/?p=1308536 ไวรัสโคโรนา “คัมเเบ็ก” ระบาดรอบใหม่ ทำให้โครงการ Travel Bubble ที่เป็นเหมือนความหวังใหม่ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวต้องโดนชะลอเเผนไปด้วย

ล่าสุดทางสำนักงานการบินพลเรือนสิงคโปร์ CAAS เเถลงว่า โครงการ Travel Bubble ระหว่างสิงคโปร์เเละฮ่องกงนั้น ต้องเลื่อนออกไปล่าช้ากว่าเดือนธันวาคมซึ่งหมายความว่า เหล่านักเดินทางต้องรอคอยถึงปีหน้าเป็นอย่างน้อย

โดยทั้งสองประเทศจะมีการประเมินสถานการณ์ความรุนเเรงของ COVID-19 อีกครั้งในช่วงปลายเดือนนี้ เพื่อประกาศกำหนดการใหม่

Travel Bubble ของฮ่องกงสิงคโปร์ มีอันต้องสะดุด เมื่อ COVID-19 กลับมาเเพร่ระบาดรุนเเรงอีกครั้ง หลังมีกำหนดเดิมที่จะเปิดตัวในวันที่ 22 ..ที่ผ่านมา จากนั้นตกลงเลื่อนกำหนดการออกไปอย่างน้อย 14 วันเเละประกาศเลื่อนไปถึงปีหน้าในครั้งนี้

หนึ่งในข้อตกลงที่สำคัญ คือหากฮ่องกงหรือสิงคโปร์ มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวลในช่วง 7 วัน ทั้งสองฝ่ายสามารถ “ยกเลิก” โครงการ Travel Bubble ระหว่างกันได้ทันที โดยผู้เดินทางจะต้องมีผลตรวจ COVID-19 เป็นลบ ก่อนเดินทางทั้งขาไปเเละกลับ ผ่านเที่ยวบินโดยสารที่จำกัดจำนวนต่อวันของสายการบินเเห่งชาติอย่าง Singapore Airlines และ Cathay Pacific

โดยก่อนหน้านี้ ยอดจองตั๋วของ Cathay Pacific ไฟลท์ระหว่างฮ่องกงสิงคโปร์ เกือบเต็มทุกที่นั่งไปอีก 2-3 สัปดาห์ เเต่ต้องเผชิญข่าวร้ายเมื่อภาครัฐตัดสินใจเลื่อนใช้มาตรการ เนื่องจากผู้ติดเชื้อในฮ่องกงพุ่งสูงขึ้น

Bloomberg Intelligence ระบุในรายงานวิจัยว่า เส้นทาง Travel Bubble สองประเทศจะสร้างรายได้ให้ Cathay ประมาณ 93 ล้านเหรียญฮ่องกง (ประมาณ 364 ล้านบาท) และจะช่วยลดการขาดทุนลงได้สูงสุดราว 6% เมื่อมาตรการต้องเลื่อนออกไปเช่นนี้ ทำให้สายการบินน่าจะยังขาดทุนอย่างรุนแรงต่อไป

ส่วนสถานการณ์การเเพร่ระบาดของ COVID-19 ในฮ่องกง ยังไม่มีแนวโน้มคลี่คลายในเร็วๆ นี้ โดยในช่วง 7 วันที่ผ่านมา พบผู้ป่วยใหม่มากกว่า 500 คน ส่งผลให้สถิติผู้ป่วยสะสมเเล้วอย่างน้อย 6 พันราย เสียชีวิตสะสมอย่างน้อย 109 คน

รัฐบาลสิงคโปร์กำลังศึกษาเกี่ยวกับการให้นักท่องเที่ยวฮ่องกงและอีกหลายประเทศ ให้สามารถเดินทางเข้าสู่สิงคโปร์ได้โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ขณะที่ฮ่องกงมีการเจรจา Travel Bubble กับอีก 10 ประเทศในขณะนี้ ซึ่งอาจจะเริ่มใช้มาตรการได้ปีหน้า

ต้องจับตาว่าโครงการ Travel Bubble ครั้งนี้จะลุล่วงเเละเป็นความหวังของธุรกิจท่องเที่ยวระหว่างประเทศ หลังวิกฤต COVID-19 ได้จริงหรือไม่

 

ที่มา : traveldailymedia , SCMP 

 

]]>
1308536
Travel Bubble ฮ่องกง-สิงคโปร์ฮิตจัด “คาเธ่ย์” ไฟลท์เกือบเต็ม ก่อนภาครัฐเบรกมาตรการ https://positioningmag.com/1307431 Tue, 24 Nov 2020 10:20:32 +0000 https://positioningmag.com/?p=1307431 บุญมีแต่กรรมบัง! ยอดจองตั๋ว คาเธ่ย์ แปซิฟิค ไฟลท์ระหว่างฮ่องกง-สิงคโปร์เกือบเต็มทุกที่นั่งไปอีก 2-3 สัปดาห์ หลังภาครัฐมีมาตรการ Travel Bubble ก่อนเผชิญข่าวร้ายเมื่อภาครัฐตัดสินใจเลื่อนใช้มาตรการ เนื่องจากผู้ติดเชื้อในฮ่องกงพุ่งขึ้นสูง

สายการบิน คาเธ่ย์ แปซิฟิค เพิ่งสื่อสารกับนักลงทุนเมื่อวันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า มาตรการ Travel Bubble ฮ่องกง-สิงคโปร์ ได้ผลดี และจะเป็นประโยชน์กับงบการเงินบริษัท ก่อนที่รัฐจะประกาศเลื่อนการใช้มาตรการนี้ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2020

“ดีมานด์ไฟลท์ไปกลับสิงคโปร์ของเราล้นทะลัก” โรนัลด์ ลัม ผู้อำนวยการบริหาร คาเธ่ย์ แปซิฟิค กล่าว “ในสองสามสัปดาห์ข้างหน้า ไฟลท์เราเกือบจะเต็มทุกที่นั่ง”

แต่ก่อนที่คาเธ่ย์จะได้บินไฟลท์แรกในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2020 รัฐบาลเกาะฮ่องกงได้ประกาศเลื่อนใช้มาตรการ Travel Bubble กับสิงคโปร์ออกไปก่อนสองสัปดาห์ เนื่องจากการระบาดรอบที่สี่เริ่มพุ่งสูงขึ้นในท้องถิ่นฮ่องกงและมีเคสที่ไม่สามารถติดตามแหล่งที่มาของโรคได้

ก่อนหน้านั้นรัฐบาลประกาศไว้แล้วว่า หากมีผู้ติดเชื้อโรค COVID-19 แบบไม่สามารถติดตามแหล่งที่มาของโรคได้เฉลี่ยเกิน 5 คนต่อวันภายใน 7 วันติดต่อกัน มาตรการ Travel Bubble จะถูกพักการใช้งานทันทีสองสัปดาห์ และในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2020 ฮ่องกงมีค่าเฉลี่ยเคสติดเชื้อที่ติดตามโรคไม่ได้ที่ 5.29 คน

Cathay Pacific

เหตุการณ์สุดวิสัยครั้งนี้ทำให้คาเธ่ย์พลาดโอกาสที่จะรับรู้รายได้จากยอดจองตั๋ว เพราะลูกค้าสามารถขอคืนค่าตั๋วได้ตามนโยบาย โดย Bloomberg Intelligence เปิดเผยในรายงานวิจัยว่า เส้นทาง Travel Bubble สองประเทศจะสร้างรายได้ให้คาเธ่ย์ประมาณ 93 ล้านเหรียญฮ่องกง (ประมาณ 364 ล้านบาท) และจะช่วยลดการขาดทุนลงได้สูงสุดราว 6% เมื่อมาตรการต้องเลื่อนออกไปเช่นนี้ ทำให้สายการบินน่าจะยังขาดทุนอย่างรุนแรงต่อไป

อย่างไรก็ตาม ความหวังอยู่ที่ปี 2021 ซึ่งสถานการณ์การระบาดน่าจะดีขึ้นและฮ่องกงมีการเจรจา Travel Bubble กับอีก 10 ประเทศในขณะนี้ ที่อาจจะเริ่มใช้มาตรการได้ปีหน้า

คาเธ่ย์ แปซิฟิคเป็นหนึ่งในสายการบินที่วิกฤตหนักที่สุดจาก COVID-19 เนื่องจากไม่มีไฟลท์ในประเทศให้พึ่งพิงได้เลย ดังนั้นจำนวนผู้โดยสารจึงลดลง 99% เหลือเพียง 1,500 คนต่อวันในขณะนี้ ทำให้สายการบินต้องปรับตัวอย่างหนัก เช่น การปลดพนักงานออก 5,900 ตำแหน่ง การปิดกิจการสายการบินลูก คาเธ่ย์ ดราก้อน

นอกจากรอลุ้น Travel Bubble แล้ว คาเธ่ย์ต้องหันไปพึ่งธุรกิจคาร์โก้อย่างเต็มที่ โดยคาเธ่ย์เป็นสายการบินคาร์โก้ที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก และเป็นหนึ่งในสายการบินไม่กี่เจ้าของโลกที่ได้รับการรับรองให้ขนส่งเวชภัณฑ์ที่ต้องรักษาอุณหภูมิ ดังนั้น น่าจะเป็นโอกาสของคาเธ่ย์ในฐานะผู้ขนส่งวัคซีนป้องกัน COVID-19

Source

]]>
1307431
“ฮ่องกง” ชะลอ Travel Bubble กับ “สิงคโปร์” หลังผู้ติดเชื้อ COVID-19 กลับมาพุ่งสูงขึ้นจนน่ากังวล https://positioningmag.com/1307068 Sun, 22 Nov 2020 08:23:47 +0000 https://positioningmag.com/?p=1307068 โครงการ Travel Bubble ของฮ่องกงสิงคโปร์ มีอันต้องสะดุด เมื่อเจอความเสี่ยงที่ COVID-19 จะกลับมาเเพร่ระบาดอีกครั้ง

ทางการฮ่องกง ประกาศเลื่อนโครงการ Travel Bubble ที่จับมือร่วมกันกับรัฐบาลสิงคโปร์ เพื่อให้ประชาชนเดินทางบินไปหากันได้โดยไม่ต้องกักตัว ออกไปอย่างน้อย 14 วันจากกำหนดการเดิมคือในวันนี้ (22 ..)

เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ในฮ่องกงกลับมาอยู่ในระดับวิกฤต โดยล่าสุด มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในฮ่องกงที่ 43 ราย เป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ที่มีสถิติผู้ป่วยรายวันกลับมาเป็นเลขสองหลัก ในจำนวนนี้มีผู้ติดเชื้อถึง 13 ราย ที่ไม่สามารถติดตามที่มาของการติดเชื้อได้ ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเเพร่ระบาดต่อไป

โดยการตัดสินใจเลื่อน Travel Bubble ออกไปครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายหารือร่วมกันแล้ว อย่างไรก็ตาม หากสถานกาณณ์ดีขึ้น คาดว่าทั้งสองฝ่ายจะตกลงหารือเกี่ยวกับแผน Travel Bubble ใหม่อีกครั้งในเดือนธ..

หนึ่งในข้อตกลงที่สำคัญ คือหากฮ่องกงหรือสิงคโปร์ มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวลในช่วง 7 วัน ทั้งสองฝ่ายสามารถยกเลิกโครงการ Travel Bubble ระหว่างกันได้ทันที โดยผู้เดินทางจะต้องมีผลตรวจ COVID-19 เป็นลบ ก่อนเดินทางทั้งขาไปเเละกลับ ผ่านเที่ยวบินโดยสารที่จำกัดจำนวนต่อวันของสายการบินเเห่งชาติอย่าง Singapore Airlines และ Cathay Pacific

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสิงคโปร์กำลังศึกษาเกี่ยวกับการให้นักท่องเที่ยวฮ่องกงและอีกหลายประเทศ ให้สามารถเดินทางเข้าสู่สิงคโปร์ได้โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ต้องรอดูว่าต่อไปจะมีการจับมือ Travel Bubble กับชาติใดอีกบ้าง

 

 

ที่มา : SCMP , CNN

 

]]>
1307068
ฮ่องกง-สิงคโปร์ บรรลุดีล Travel Bubble ขั้นแรก คาดเดือน ธ.ค. นี้บินหากันได้ไม่ต้องกักตัว https://positioningmag.com/1301647 Thu, 15 Oct 2020 09:34:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1301647 ฮ่องกง-สิงคโปร์จับมือข้้นต้น ทำ Travel Bubble บินหากันได้โดยไม่ต้องกักตัว ความเป็นไปได้เริ่มธันวาคมนี้ จากปัจจุบันนักท่องเที่ยวฮ่องกงบินเข้าสิงคโปร์ รับสิทธิพิเศษกักตัวลดเหลือ 7 วันจากปกติ 14 วัน

สำนักข่าว South China Morning Post รายงานว่า รัฐบาลฮ่องกงและสิงคโปร์ทำข้อตกลงเบื้องต้นแล้วว่า จะมีการเปิดระบบ Travel Bubble สำหรับประชาชนของสองดินแดน สามารถเดินทางหากันได้โดยไม่ต้องกักตัวในที่กักตัวของรัฐหรือในบ้านพัก โดยรายละเอียดที่ยังหารือกันอยู่เป็นประเด็นการแสดงใบตรวจเชื้อโรคระบาด COVID-19 ก่อนเดินทาง

แหล่งข่าววงในเผยกับสำนักข่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีวันที่แน่ชัดในการบังคับใช้ ร็วที่สุดที่เป็นไปได้คือเดือนพฤศจิกายน แต่คาดว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมและพร้อมน่าจะเป็นเดือนธันวาคมมากกว่า

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม Ong Ye Kung รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังศึกษาการประกาศให้นักท่องเที่ยวฮ่องกงและอีกหลายประเทศสามารถเข้าสู่สิงคโปร์ได้โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน และเมื่อต้นสัปดาห์นี้เอง สิงคโปร์เพิ่งลดจำนวนวันกักตัวสำหรับนักท่องเที่ยวฮ่องกงจาก 14 วันเหลือ 7 วัน

ทั้งสองพื้นที่รายงานอัตราผู้ติดเชื้อใหม่ต่ำมากในเดือนนี้ สิงคโปร์มีผู้ติดเชื้อใหม่ต่ำกว่าสิบรายเป็นส่วนใหญ่ ส่วนฮ่องกงมีผู้ติดเชื้อใหม่น้อยกว่าสิบรายเกือบทุกวัน โดยมีวันที่ผู้ติดเชื้อใหม่พุ่งสูงสุดคือ 18 รายในวันเดียว

Source

]]>
1301647